พิทักษ์ป่าไทย ใช้”ลูกซอง”สู้”อาก้า” ใช้จิตใจ สู้จิตใจ

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกรมป่าไม้ จะมีความพยายามมากแค่ไหน ในการสกัดกั้น กำจัด และป้องกันไม่ให้มีการลักลอบตัดไม้พะยูง แต่ก็ยอมรับว่าขบวนการมอดไม้ หรือขบวนการลักลอบตัดไม้ยังคงมีอยู่ แม้จะน้อยลง แต่ไม่ได้น้อยเพราะการปราบปรามได้ผล แต่น้อยลง เพราะมีไม้พะยูงในป่าให้ขโมยน้อยลงต่างหาก

สาเหตุหลักๆ เลย ที่ไม้พะยูงยังคงถูกลักลอบตัดอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นเพราะมีการปั่นราคาเป็นที่ล่อตา ล่อใจ คนทุกหมู่เหล่าที่จ้องจะหาเงินในทางมิชอบมากนัก จากเดิมเป็นไม้ต้องห้าม ไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวด้วย กระทั่งมีการปล่อยข่าวออกมาว่า รัฐบาลจีนเอาไม้พะยูงไปซ่อมแซมพระราชวังต้องห้าม หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทั้งตลาดมืด ตลาดสว่าง ของทุกประเทศที่มีไม้พะยูง มีความต้องการไม้พะยูงสูงมาก ที่เคยแอบซื้อแอบขายกันต้นละไม่กี่พัน มาวันนี้ พะยูงต้นไหนสวยสมบูรณ์แบบ แอบขายกันต้นละ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนในประเทศไทยกล้าการันตีว่าเราเหลือไม้พะยูงอยู่ในป่า อนุรักษ์จำนวนกี่ไร่ บอกได้แค่เลขกลมๆ ว่าแค่หลักพันไร่เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่ากี่พัน

รู้ก็แต่ว่า แหล่งไม้พะยูงสมบูรณ์ยังมีอยู่ และอยู่ในป่าลึก หมายความว่าโจรขโมยไม้ก็ต้องดั้นด้น เข้าป่าลึกมากขึ้น แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกรมป่าไม้ ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ความ จริงข้อหนึ่งที่หลายๆ คนยังไม่รู้ก็คือ พนักงานพิทักษ์ป่า ผู้ทำหน้าที่ออกลาดตระเวนป่า ดูแลสกัดกั้น ไม่ให้ใครมาขโมยทรัพยากรนั้น ทำหน้าที่ด้วยความยากลำบาก

Advertisement

การเดินลาดตระเวนในป่าลึกครั้งละ 5-6 วัน นอนกลางดิน กินกลางทราย ที่แสนสาหัสอยู่แล้ว คนเหล่านี้ยังต้องเผชิญขบวนการลักลอบตัดไม้ ที่มีอาวุธหลักครบมืออีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในป่าที่มีไม้พะยูง พนักงานพิทักษ์ป่าต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ไม้พะยูงแต่ละต้นมีมูลค่ามหาศาล ขบวนการลักลอบตัดไม้ พร้อมที่จะเอาชีวิตทุกคนที่เข้ามาขัดขวาง

พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เร็วๆ นี้ ทส.กำลังจะซื้อปืน สำหรับเป็นอาวุธป้องกันตัวให้กับพนักงานพิทักษ์ป่า ที่ต้องทำหน้าที่ออกลาดตระเวนป่าทุกคน จำนวน 3,385 กระบอก ใช้งบประมาณ 142 ล้านบาท ของกรมป่าไม้ 445 กระบอก ใช้งบประมาณกว่า 18 ล้านบาทเศษ โดยของกรมอุทยานฯนั้นเป็นลูกซองชนิด 7+1 นัด และของกรมป่าไม้เป็นชนิด 8+1 นัด

รัฐมนตรี ทส.ย้ำว่า พนักงานพิทักษ์ป่า ทั้งของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ไม่ได้มีหน้าที่ไปไล่ล่า หรือตามล้างกลุ่มผู้เข้ามาขโมยทรัพยากรในป่า เพราะหน้าที่ดังกล่าวนี้เป็นของตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า มีหน้าที่เพียงป้องกันไม่ให้ใครมาขโมยทรัพยากรไปเท่านั้น

Advertisement

ท่านรัฐมนตรี จะรู้บ้างไหมว่า วิถีแห่งการป้องกันทรัพยากรไม่ให้ใครมาขโมยนั้น มันลำบากแสนสาหัส และต้องเสี่ยงชีวิตแค่ไหน

พนักงาน พิทักษ์ป่านายหนึ่งเล่าว่า พื้นที่ของเขาค่อนข้างเสี่ยงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เพราะในป่ามีไม้พะยูงอยู่มากพอสมควร ในแต่ละวัน จึงมีทั้งกองกำลังต่างชาติ หรือกระทั่งโจรชาวไทย เข้าไปลักลอบตัด และขนไม้พะยูงอยู่เสมอ

“พวก นี้เวลาเข้าป่าแต่ละครั้งมันไม่ได้ไปมือเปล่า มันหวังผลทุกครั้ง เพราะหากเอาพะยูงออกมาได้ ต้นใหญ่ๆ สมบูรณ์ๆ นี้เหยียบล้านนะครับ มันจึงทุ่มเทมาก มันจึงมาพร้อมเครื่องมือขนย้ายไม้ และอาวุธครบมือ ปืนที่มันใช้อย่างน้อยที่สุดเป็นปืนอาก้าเชียวนะครับ และหลายครั้งก็มีเอ็ม 16 ด้วย ในขณะที่ของเรา ทีมลาดตระเวน 7 คน ถือปืนกันครบทุกคนนะครับ เป็นปืนลูกซอง แต่ทว่า ที่ใช้ยิงได้จริงๆ บางทีมีแค่ 2 กระบอกเท่านั้น สำหรับคนที่เดินหัว เดินท้าย คือ ถือปืนเอาไว้ขู่นะครับ ให้เห็นไกลๆ ว่า พวกป่าไม้มีปืนนะ แต่บางทีปืนก็ยิงไม่ได้หรอก” พนักงานพิทักษ์ป่าคนนั้นเล่าสีหน้ายิ้ม แต่น้ำเสียงขมขื่นยิ่งนัก

สอบ ถามไปยัง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปืนคนหนึ่งในกรมอุทยานฯว่า ปืนอาก้ากับปืนลูกซอง ที่ทาง ทส.กำลังจะซื้อให้พนักงานพิทักษ์ป่าใช้สำหรับภารกิจลาดตระเวนนั้น ชนิดไหนจะดีกว่า ได้รับคำตอบ ที่น่าสะเทือนใจว่า อาก้าดีกว่าลูกซองแน่นอน แต่มีปืนลูกซองใช้ยังดีกว่า ไม่มีอะไรเลย…

“พวกขโมยไม้พะยูงชายแดน เขมร มักจะใช้ปืนอาก้า เป็นอาวุธหลัก ซึ่งศักยภาพของปืนอาก้าคือ ความเร็วสูงสุด สามารถยิงได้ 700 นัดต่อนาที รองลงมาจากอาก้า คือ เอ็ม 16 และเอชเค การจะสู้กับอาก้านั้น ต้อง เอ็ม 16 หรือไม่ก็เอชเค อย่างไรก็ตาม ลูกซองที่เราจะซื้อเป็นลูกซองที่มีศักยภาพค่อนข้างดี พัฒนาจาก 5 นัดเป็น 8 นัด มีลำกล้องยาวขึ้น ลูกเยอะขึ้น ยิงได้เร็วขึ้น เพราะยิงออกมา 1 นัด จะมีลูกปืนแยกกระจายออกมาได้อีก 9 นัดด้วยกัน ซึ่งในระยะประชิดแบบหวังผล ถือว่าปืนลูกซองจะดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการฝึกฝน” ผู้เชี่ยวชาญด้านปืนของกรมป่าไม้คนหนึ่งกล่าว

มีข่าวแจ้งว่า ปืนลูกซองจำนวน 3 พันกว่ากระบอกที่ ทส.กำลังจะสั่งซื้อนั้น เป็นแค่ปืนเกรดบี ผลิตในตุรกี มีราคากลางอยู่ที่กระบอกละ 39,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ตั้งใจจะซื้อปืนจากสหรัฐ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตปืนที่ดีที่สุดในโลก แต่ปรากฏว่าสภาคองเกรสของสหรัฐไม่อนุมัติให้ขายปืนให้กับไทย จึงต้องเบนเข็มไปซื้อจากผู้แทนจากตุรกีแทน

แค่ปืนลูกซอง เราจะสู้กับโจรได้ไหม

“สู้ได้ อยู่ที่ยุทธวิธี” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยืนยัน

แล้วถ้าเผชิญหน้ากันแบบกะทันหัน ยังไม่ทันวางแผนล่ะ สู้ได้ไหม

“สู้ได้ เราฝึกมาดี จิตใจเราพร้อม เราไม่ยอมให้ใครขโมยสมบัติในป่าของเราไปง่ายๆ แน่นอน”

เจ้าหน้าที่คนเดิมยืนยันหนักแน่น!! อีกครั้ง
(กรอบบ่าย)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image