เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ) นับจากช่วงเวลานี้ไปอีก ประมาณ 7 วัน ซึ่งเป็นช่วงของเทศกาลสงกรานต์ พบว่า กระแสลมจากอ่าวไทยซึ่งจะพัดพาเอาความชื้นเข้ามา มีกำลังอ่อนมาก เป็นเหตุให้ประมาณการได้ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โอกาสที่จะมีฝนตกลงมานั้นมีน้อยมาก ไม่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ที่ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีฝนตก รวมทั้งลมฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นทิศทางของที่มาความกดอากาศต่ำ ก็อ่อนกำลังลงเช่นกัน ผลที่ตามมาก็คือ กระแสลมฝั่งตะวันตกแทนที่จะพัดขึ้นสูง ก็กลับจมตัวลง โอกาสที่จะเกิดฝนและลูกเห็บตก เหมือนที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ในภาคเหนือเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา จึงมีไม่มากนักเช่นเดียวกัน สำหรับปรากฏการณ์ที่มีลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของภาคเหนือนั้น น่าแปลกใจตรงที่วาฟคำนวณล่วงหน้าไม่ได้ ตรวจไม่พบ แต่ทราบได้ทางเรดาร์ตรวจสอบอากาศ ซึ่งกำลังตรวจสอบแบบจำลองอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ช่วงเทศกาลสงกรานต์ อุณหภูมิตอนกลางวัน ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นอุณหภูมิจะสูงมากกว่า 41 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพฯ และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะอยู่ที่ 39-40 องศาเซลเซียส เพราะยังพอมีลมจากอ่าวไทย พัดเข้ามาระบายความร้อนได้บ้าง แต่เนื่องจากกำลังลมจากอ่าวไทยค่อนข้างอ่อน ทำให้ไม่มีฝนตก ไม่ผิดปกติ แต่อาจจะรู้สึกบ้าง เพราะเทศกาลสงกรานต์เราต้องการเล่นน้ำ แต่มีน้ำให้เล่นน้อยก็ต้องอดทน เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ช่วงเดือนมิถุนายน ค่าเอลนิโญ จะเปลี่ยนมาเป็นกลาง หมายความว่า ราวปลายเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน จะมีฝนตามฤดูกาลแน่นอน” นายรอยลกล่าว
