หลังเกิดเหตุระบบรถไฟฟ้า “บีทีเอส” ขัดข้องต่อเนื่องหลายวัน ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร ได้จัดงานแถลงข่าว โดยภายในงานได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก
นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ปฏิบัติการแทน เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย คือ กสทช. บีทีเอส บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือทีโอที และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค โดยได้ข้อสรุปว่า สาเหตุของปัญหาอาณัติสัญญาณขัดข้องในระบบเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส น่าจะเกิดจากการรบกวนสัญญาณการสื่อสารของสัญญาณโทรคมนาคมย่านความถี่ 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ ต่อสัญญาณวิทยุซึ่งใช้ในระบบอาณัติสัญญาณย่านความถี่ 2400 เมกะเฮิร์ตซ์ ทำให้ระบบสัญญาณขัดข้อง และส่งผลให้การเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสมีความล่าช้ากว่าปกติ
“ที่ประชุมโดย กสทช.ได้ขอให้ทางทีโอทีและดีแทคปรับลดความเข้มสัญญาณที่ส่งตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสลง เพื่อลดการรบกวนคลื่นวิทยุจนกว่าบีทีเอสจะสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ขณะที่ กสทช.ได้แนะนำให้ทางบีทีเอสย้ายคลื่นความถี่ที่ใช้จาก 2400 เมกะเฮิร์ต ไปอยู่ในช่วงใกล้ 2500 เมกะเฮิร์ต รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์กรองสัญญาณเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด” นายพิชัยกล่าว
ด้านนายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย ทีโอที เผยว่า ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการติดตั้งคลื่นสัญญาณของเรา รวมถึงทางดีแทคเองก็รับทราบเรื่องนี้แล้ว โดยเราได้ดำเนินการตามที่ กสทช. แนะนำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนจนกว่าทางบีทีเอสจะป้องกันสัญญาณการรบกวนเสร็จสิ้นดี เราดีใจที่ตอนนี้ได้เข้าสู่สภาวะปกติ หากมีอะไรเราก็ยินจะให้ความร่วมมือเป็นระยะ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ขณะที่นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ ปัจจุบันระบบเดินรถของบีทีเอสสามารถดำเนินไปได้อย่างปกติเพราะความร่วมมือจากทีโอทีและดีแทค คาดหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าเราจะติดตั้งอุปกรณ์กรองสัญญาณเพิ่มเติม และปรับคลื่นสัญญาณตามที่ กสทช.แนะนำ ซึ่งขณะนี้อยากขอเวลาสักระยะเพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่ โดยแผนเดิมที่เราวางไว้คือเดือนตุลาคม แต่เมื่อ กสทช.เร่งมาเราจึงได้ดำเนินการเร่งแก้ไขทันทีให้แล้วเสร็จภายในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งหากภายในวันจันทร์หรือสัปดาห์พบว่าระบบกลับมาเป็นปกติก็ถือว่าตอนนี้เรามาถูกทาง และภายภาคหน้าจะมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
“ส่วนการเยียวยา ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาอยู่ว่าเราจะสามารถชดเชยให้กับประชาชนได้อย่างไรบ้าง อาจต้องขอเวลาจากผู้ใช้บริการทั้งหลายที่มีความประสงค์อยากให้เราชดเชยหรือเยียวยาใดๆ ก็ตาม เรามีความต้องการจะเร่งดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากคิดหารือกับคณะกรรมการแล้ว เมื่อได้ข้อสรุปเราจะแจ้งให้ทราบอีกที” นายสุรพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเยียวยาเบื้องต้น ทางบีทีเอสได้แจ้งให้ทราบว่า ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.ที่อาจเกิดเหตุขัดข้องอีก ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการแก้ไข ในกรณีนี้ผู้โดยสารสามารถออกจากรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ทันที โดยที่บัตรประเภทแรบบิทการ์ด ทั้งแบบเติมเงินและเติมเที่ยวจะไม่มีการตัดค่าเที่ยวแต่อย่างใด ส่วนบัตรประเภทใช้ครั้งเดียว สามารถออกจากระบบและเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้งานได้ใหม่ภายใน 14 วัน ตามมูลค่าเดิม
