ตามที่กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนบูรณาการการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์จากการดื่มสุราเมาแล้วขับ จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยมาตรการหนึ่งคือจะร่วมกับโรงพยาบาลในการส่งผู้ขับขี่ “เมาแล้วขับ” ไปบำเพ็ญประโยชน์ในห้องดับจิตนั้น กระทั่งมีข้อท้วงติงว่า อาจเป็นการละเมิดสิทธิ โดยต้องขออนุญาตญาติของผู้เสียชีวิตหรือไม่ และอาจไปเพิ่มภาระให้กับบุคลากรในโรงพยาบาลนั้น
เมื่อวันที่ 11 เมษายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า กรณีบำเพ็ญประโยชน์ห้องดับจิตนั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องไปดำเนินการใดๆกับผู้เสียชีวิต เพราะจะเป็นหน้าที่ของบุคลากรโดยตรงในการดูแลอยู่แล้ว อย่างการแต่งหน้าศพ ซึ่งคนนอกไม่สามารถเข้าไปทำได้อยู่แล้ว ดังนั้น หน้าที่ของผู้บำเพ็ญประโยชน์อาจให้ทำความสะอาดรอบๆบริเวณห้องดับจิต หรือการช่วยลำเลียง เข็นเตียง เป็นต้น ทำคล้ายๆ เหมือนเจ้าหน้าที่อาสาของมูลนิธิกู้ภัย จึงไม่น่าจะเป็นการลิดรอนสิทธิแต่อย่างใด สิ่งสำคัญคือ มาตรการนี้เพื่อให้ผู้กระทำผิดกรณีเมาแล้วขับ เห็นกับสายตาตัวเองว่า คนบาดเจ็บมีความทุกข์ทรมานแค่ไหน ขณะที่ญาติหรือครอบครัวก็เสียใจและทุกข์ไม่แพ้กัน เพื่อให้เข้าใจ และไม่กลับไปทำลักษณะนี้อีก
“ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีข้อกังวลดังกล่าว ซึ่งทาง สธ. ได้มีการประชุมวีดีโอทางไกลร่วมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่างๆ และกำชับเรื่องการเตรียมพร้อม และซักซ้อมกรณีรับผู้บำเพ็ญประโยชน์ตามมาตรการของกรมคุมประพฤติ ซึ่งคาดว่าจะมีการดำเนินการหลังสงกรานต์ เนื่องจากช่วงสงกรานต์แม้จะมีการจับกุมผู้กระทำผิด แต่ต้องรอขั้นตอนการพิจารณาชั้นศาล เพื่อส่งตัวบำเพ็ญประโยชน์ต่อไป เพราะช่วงเทศกาล ทางโรงพยาบาลจะต้องเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อม เพื่อรับมือกับอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นช่วงเทศกาลก่อน” นพ.สุวรรณชัย กล่าว
