ให้กิน ‘เพาเวอร์เจล-ยาปฏิชีวนะ’ ซีลเตรียมสอน ’13 หมูป่า’ ว่ายน้ำ ใช้หน้ากากพิเศษพาตัวออกถ้ำหลวง

เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ทำการวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งใช้เป็นที่พักชั่วคราวของพ่อ แม่ ญาติ ระหว่างรอการออกมาของนักเตะเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่จากถ้ำหลวง เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ทำการแบ่งกลุ่มนัดแนะญาติเพื่อซักซ้อมกรณีที่ลำเลียงทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำได้ จะนำขึ้นรถพยาบาลที่เตรียมไว้ 13 คัน 1 คนต่อ 1 คัน โดยจะอนุญาตให้มีญาตินั่งรถติดตามได้รายละ 4 คน เพื่อไปดูแลใกล้ชิด โดยส่งตัวทั้งหมดรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเช้าวันนี้กลุ่มญาติและผู้ปกครองของทั้ง 13 ชีวิตมีสีหน้าสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าทุกวัน หลังได้รับข่าวดี

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ได้รับรายงานการประเมินสภาพร่างกายของทั้ง 13 รายในเบื้องต้น ไม่มีใครน่าเป็นห่วง มีที่บาดเจ็บบ้างแต่ไม่มาก จากที่แพทย์กำหนดระดับอาการไว้สามระดับคือ สีแดง ขั้นวิกฤต สีเหลือง ต้องดูแลพิเศษ และ สีเขียว เป็นระดับต้องได้รับการดูแล พบว่าผู้ใหญ่บางรายอยู่ในระดับระดับสีเหลือง แต่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสีเขียว

“จากนี้นอกการนำอาหารเพาเวอร์เจลซึ่งให้พลังงานสูง ควบคู่กับอาหารที่ส่ง แพทย์ลงความเห็นว่าเราต้องให้ยาทุกชนิด ทั้งยาปฏิชีวนะ ยาพาราเซตามอลให้ทุกคนใช้ป้องกันการติดเชื้อ ต้องป้องกันให้ 100 เปอร์เซ็นต์ แพทย์ที่ส่งเข้าไปซึ่งตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าไปถึงไหน เพราะยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งจะเป็นผู้ประเมินสภาพร่างกาย ความพร้อม ปรับสภาพให้สมบูรณ์ก่อนนำทั้ง 13 คนออกมา ถามว่าเมื่อไหร่จะเอาทั้ง 13 คนออกมา ยืนยันว่าออกมาได้ก็ต่อเมื่อปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เราพยายามอย่างมากจนพบทั้ง 13 คนแล้ว ตอนนี้คือการกู้ภัย เราจะไม่หลุดมือเด็ดขาด พวกเขาต้องออกมาอย่างปลอดภัยที่สุด ตามแผนหน่วยซีลจะทำหน้าที่เข้าไปดูแล และเมื่อพร้อมอาจจะต้องสอนให้ว่ายน้ำ ดำน้ำ โดยจะให้ใช้หน้ากากแบบพิเศษในการดำน้ำออกมาให้ได้ แพทย์และซีลจะประเมินร่วมกันว่าพร้อมเมื่อไหร่ ทั้งนี้ หากระดับน้ำในถ้ำลดลงจนถึงระดับที่สามารถใช้แพหรืออุปกรณ์ลอยน้ำได้ก็จะใช้วิธีนั้นนำเด็กออกมา ตอนนี้เราจะดูแลเด็กๆ ทั้ง 13 คนอย่างดีที่สุด” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าว

Advertisement

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่เจอตัว ที่ตนมั่นใจว่าทุกคนจะต้องรอดปลอดภัยเพราะการซักถามประวัติจากครอบครัว เราประมวลรวมจากส่วนสูง น้ำหนัก สุขภาพ ความพร้อมสมบูรณ์ของร่างกาย จนเชื่อว่าด้วยสภาพร่างกายของทุกคน หากอยู่นิ่งๆ ในถ้ำ สามารถดำรงชีวิตรอดได้ถึง 30 วัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image