วันที่ 11 เมษายน ชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ชุดปฎิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปฏิบัติการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ และตำรวจในท้องที่ เข้าตรวจค้นที่โรงเลื่อยจักร ส.รุ่งเรืองค้าไม้ เขตท้องที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตรวจพบไม้แปรรูปและไม้ท่อนจำนวนมาก ประเภท ไม้แดง ไม้ประดู่ และไม้ชิงชัน ในเบื้องต้นเจ้าของโรงเลื่อยให้การว่า ได้มาจากไม้ในเขตที่ดินเอกสารสิทธิที่ซื้อมาจากหลายจังหวัด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่า ไม้ที่มีอยู่ไม่ตรงกับเอกสารที่ระบุไว้ จึงได้ร่วมสรุปตรวจอายัดเพื่อขยายผลหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้เข้าตรวจค้น โรงเลื่อยจักร บริษัท บางเลน ค้าไม้ จำกัด ของ น.ส. ปรียากาญจน์ ผ่านสำแดง ท้องที่ ต.บางไทร อ.บางเลน จ.นครปฐม ตรวจพบไม้ชิงชัน ลักษณะไม้ตีปอนด์แบบไม้ที่ลักลอบมาจากในป่า ตามที่ติดตามขบวนการอยู่จำนวน 700 แผ่น/เหลี่ยม ประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตร ตรวจไม่พบรูปรอยดวงตราทั้งหมด และพบว่าเอกสารที่นำมาแสดงไม่ชัดเจนมีข้อพิรุธ
นายชีวะภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ พบไม้ชิงชัน และไม้พะยูง ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ โดยเอาผ้าใบมาปิดแอบเอาไว้ตามจุดต่างๆ รอบๆ โรงเลื่อยหลายจุด เบื้องต้นพบไม้ชิงชัน ประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตร และไม้พะยูงประมาณ 10 ลูกบาศก์เมตร โดยไม้ชิงชันนั้น ลูกบาศก์เมตรละประมาณ 5 แสนบาท ส่วนไม้พะยูงลูกบาศก์เมตรละ 1 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด ไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย เจ้าหน้าที่พยายามสอบถาม ได้รับคำตอบเพียงอย่างเดียวว่า ไม้ทั้งหมดเป็นของคนจีนที่มาจ้างให้เลื่อย แต่เมื่อขอตรวจหนังสือสัญญาว่าจ้างให้เลื่อยกลับไม่มี จึงอายัติไว้ทั้งหมด
“ความจริงแล้ว เราคาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า ช่วงเวลาใกล้กับวันสงกรานต์นั้นขบวนการค้าไม้นี้จะขนไม้ออกมา เพราะคิดว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ทำงานน้อย โดยทาง กอ.รมน.โดย พ.อ.พงเพชร ได้ตามขบวนการนี้มาตั้งแต่ต้นทาง คือ ที่ จ.ลำปาง และ จ.พะเยา และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์เอาไว้” นายชีวะภาพ กล่าว
