เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายศักดา แก้วบัวดี นักแสดง โพสต์เล่าเรื่องของนาย Nhia ชนกลุ่มน้อยชาวม้งเวียดนาม ที่ถูกขังอยู่ใน ตม.ไทย 10 ปีแล้ว โดยเล่าว่าเมื่อ 15 ปีก่อน ครอบครัวนี้เป็นคนไร้สัญชาติใช้ชีวิตในหมู่บ้านที่เวียดนามแบบชาวม้งทั่วไป มีภรรยาและลูกสาว 5 คน หลังถูกจับกุมและทรมานเหตุเพราะเรื่องศาสนาทำให้ครอบครัวนี้ต้องหนีไปประเทศลาวและมาถึงไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นาย Nhia ถูกจับ ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองและถูกขังอยู่ใน ตม. อย่างไม่มีกำหนด
นายศักดาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตฝรั่งเศส ซึ่งตกลงจะรับเข้าประเทศ แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าปรับตามกฎหมายคนละ 2 หมื่นบาท โดยทั้งครอบครัวต้องเดินทางไม่เกินวันที่ 15 ส.ค.นี้
“พวกเค้านับถือศาสนาคริสต์ แต่ด้วยความเกลียดชังของตำรวจที่นั่น ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมครอบครัวนี้ต้องนับถือพระเจ้า จึงได้จับตัวนาย Nhia มาขังไว้แบบไม่มีเหตุผลตามหลักกฏหมาย เขาถูกทรมาน (เมียเค้าเล่า) โดยการทุบตีจนสลบหลายรอบ พอเขาฟื้นขึ้นมาจึงได้หนีออกมาจากที่คุมขังและโดนตามล่า เขาจึงพาครอบครัวหนีเข้าไปที่ประเทศลาวและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น 4 ปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวนี้อยู่อย่างสงบ เพราะตำรวจเวียดนามได้ตามพวกเค้ามาถึงลาว พวกเค้าจึงทำการหนีอีกครั้งทั้งๆที่เพิ่งคลอดลูกสาวคนสุดท้องได้แค่ 2 เดือน จนในที่สุดก็เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2008 และอยู่แบบหลบๆซ่อนๆในกรุงเทพเป็นเวลา 7 เดือน
“จนกระทั่งวันหนึ่งนาย Nhia ได้ตัดสินใจออกจากที่พักเพื่่อไปติดต่อ UNHCR ให้ช่วยเหลือพวกเค้าลี้ภัยไปประเทศที่สาม แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะเขาโดนจับในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองและถูกขังอยู่ใน ตม. ตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 10 ปีแล้ว ทิ้งให้เมียดูแลลูกสาวทั้ง 5 คนเพียงลำพัง และไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลย
ผมและเพื่อนจึงได้เข้าไปเยี่ยมเขา แต่เขาพูดภาษาไทยไม่ได้ ผมจึงหาล่ามภาษาเวียดนามไปด้วยทุกครั้ง เขาและครอบครัวเป็นคนไร้สัญชาติจึงไม่มีแผ่นดินให้อยู่ ดังนั้นตามกฏหมายแล้วทางการไทยจึงไม่สามารถปล่อยตัวเขาออกมาได้ ต้องถูกขังอยู่ในนี้ไปเรื่อยๆแบบไม่มีกำหนด
“พวกผมจึงได้ติดต่อสถานทูตฝรั่งเศสให้ช่วยเหลือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสถานทูตก็ตอบรับโดยการส่งตัวแทนมาพบนาย Nhia ที่ถูกขังอยู่ใน ตม. จากนั้นจึงส่งเรื่องไปที่รัฐบาลฝรั่งเศส จนกระทั่งเมื่อ 3 วันก่อน (12 ก.ค.) ทางรัฐบาลฝรั่งเศสตอบกลับมาว่าจะช่วยเหลือโดยการรับครอบครัวนี้เข้าประเทศ ผมจึงได้พาเมียและลูกๆของเขาเข้าไปรายงานตัวที่สถานทูตฝรั่งเศส และได้พูดคุยกับเลขานุการเอก ท่านเลขานุการเอกบอกว่าให้การช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าปรับตามกฏหมาย Overstay คนละ 20,000 บาท ถึงจะออกจากไทยได้ และทุกคนจะต้องบินไม่เกินวันที่ 14 สิงหาคมนี้เท่านั้น
“ดังนั้นผมซึ่งเป็นคนดูแลครอบครัวนี้อยู่ จึงต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวไปฝรั่งเศสของการบินไทยอยู่ที่ราคา 35,000 บาทต่อคน รวมค่า Overstay อีกคนละ 20,000 บาท นาย Nhia ไม่ต้องจ่ายเพราะถูกรับโทษแล้ว ลูกคนสุดท้องอายุต่ำกว่า 15 ก็ไม่ต้องจ่าย รวมเป็นเงินทั้งหมด 345,000 บาทโดยประมาณ และจะต้องมีค่าใช้จ่ายจุกจิกที่จะต้องตามมาอีกหลายอย่าง ผมจึงคิดว่าทั้งหมด 400,000 คงจะเพียงพอ และต้องหาให้ได้อย่างน้อยภายในสองสัปดาห์นี้ ก็บอกกันตรงๆนะว่าผมไม่มี และถ้าพลาดโอกาสการเดินทางครั้งนี้แล้ว การจะขอเอกสารจากทางการฝรั่งเศสรอบที่สองมันก็คงไม่ง่ายอีกแล้ว นาย Nhia ก็คงต้องถูกขังอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
นายศักดาได้เปิดบัญชีธนาคารสำหรับไว้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ ชื่อบัญชี Sakda Kaewbuadee Bangkok Bank 926-7-014406 โดยจะมีการอัพเดทยอดบริจาคหน้าเฟซบุ๊ก และแสดงหลักฐานการช่วยเหลือและการเดินทางของผู้ลี้ภัย เช่นเคสอื่นๆที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีผู้เข้ามาตั้งคำถามว่าเหตุใดไม่มีการผลักดันออกนอกประเทศ นายศักดาตอบว่าการผลักดันออกนอกประเทศต้องใช้เงินในการเดินทาง และแน่นอนว่าประเทศเราไม่มีงบตรงนี้ ดังนั้นคนที่ไม่มีค่าเดินทางและที่โดนจับได้ก็ต้องถูกขังไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาค่าเดินทางมาแล้วถึงจะออกนอกประเทศได้ ถ้าสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แนะนำให้ไปดูด้วยตาตนเอง สถานที่กักกันชาวต่างชาติ ซอยสวนพลู ซึ่งคนที่โดนกักตัวอยู่นี้ไม่ได้ก่ออาชญากรรมหรือทำผิดอะไรเลยนอกจากหลบหนีเข้าเมือง ส่วนใหญ่ก็อยู่กัน 2-3 ปีแล้ว และมีคนอยู่ในนี้ถึง 30 ปีก็มีมาแล้ว อีกเหตุผลนึงคือ ไม่สามารถกลับประเทศตนเองได้ เพราะกลับไปก็ตาย เลยต้องอยู่ในขั้นตอนของการติดต่อ UNHCR เพื่อลี้ภัยไปประเทศที่สาม แต่คนที่สามารถผ่านการสัมภาษณ์ไปประเทศที่สามได้นั้น มีน้อยกว่า1% ซึ่งน้อยมากๆ ในไทยตอนนี้มีผู้อพยพหลบอยู่ในกรุงเทพประมาณ 8,000 คน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
