ปลัดสธ. เตรียม รพ.รับเมาแล้วขับเฝ้า “ห้องดับจิต” ย้ำไม่กระทบสิทธิทุกฝ่าย

ภาพจากกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อวันที่ 13 เมษายน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เสนอให้ผู้ทำผิดกฎจราจร ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในโรงพยาบาล ว่า เรื่องนี้ตรงกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเสนอให้ผู้ทำผิดกฎจราจร เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ให้มาช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บทางสมองที่เกิดจากจราจรในโรงพยาบาล  หรือพูดคุยกับญาติ เพื่อจะได้มาเห็นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เกิดความรู้  ทัศนคติที่ดี นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความปลอดภัยจากจราจร  โดยได้ประสานกับกรมคุมประพฤติ ขอให้ศาลสั่ง เป็นอำนาจของศาลที่จะให้ผู้ทำผิดไปทำกิจกรรมในลักษณะไหน ถ้าหากจะมาที่โรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขก็ยินดีที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า   ที่ผ่านมาได้รับการประสานจากกรมประพฤติ ให้พาเหยื่อจากเมาแล้วขับ หรือผู้บาดเจ็บ ผู้พิการจากจราจร ไปพบผู้กระทำผิด  ให้เห็นสภาพ ให้เล่าสภาพชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องราวที่เกิดขึ้น  สำหรับกรณีการให้ไปช่วยงานที่ห้องดับจิตนั้น  ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกระตุก ให้ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  ก็สามารถที่จะทำได้แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ละเมิดผู้เสียชีวิต และญาติ  ซึ่งคิดว่าคงไม่มีใครอยากไปเห็น แต่เมื่อได้เห็นสภาพอาจสร้างความตระหนัก มีการพูดคุยกันในสังคม  โดยมุ่งหวังให้เกิดความปลอดภัยจากจราจรขึ้นในสังคม

วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลราชวิถี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  กล่าวถึงการเตรียมพร้อม รพ. เพื่อรองรับการไปทำงานบริเวณห้องดับจิต ว่า กรมได้เตรียมพร้อมรพ.ในสังกัด สำหรับกรณีดังกล่าว แต่ไม่ใช่ว่าจะให้ไปทำงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตเลย คงเป็นการช่วยเล็กๆน้อยๆ กับบุคลากรที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะให้ดำเนินการใดๆ จะไม่กระทบต่อจิตใจของญาติผู้เสียชีวิต เพราะหลักการต้องการให้กลุ่มเมาแล้วขับไปเห็นภาพการสูญเสียชีวิต ความโศกเศร้าของญาติ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น  ทั้งนี้ สถิติพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากรถยนต์ปีละ 2.4 หมื่นราย เฉลี่ยวันละ 60-70 คน คิดเป็นชั่วโมงละ 3 คน ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุด้วยรถจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 80 โดยมาจากการไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด

cmnqg0dl0pfw

Advertisement

q5lg5a0raxdi

ขอบคุณภาพจากกระทรวงสาธารณสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image