เมื่อวันที่ 14 เมษายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สธ.ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และตำรวจท้องที่ ออกตรวจการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 10 -13 เมษายน 2559 ดำเนินการตรวจในพื้นที่เกาะช้าง พื้นที่ อ.เมือง จ.ตราด และ จ.นครนายก ภาคเหนือ ที่ จ.แพร่ จ.พะเยา และ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ และ จ.อำนาจเจริญ ภาคใต้ ที่ อ.ไชยา และ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี สุ่มตรวจทั้งสิ้น 527 ราย พบการกระทำผิดและดำเนินคดี 162 ราย โดยฐานความผิดที่พบ 3 อันดับแรก คือ โฆษณาสื่อสารการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวันไม่เกิน 5 หมื่นบาท จนกว่าจะหยุดโฆษณา 47 ราย รองลงมา บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 40 ราย ที่สวนสาธารณะทั้ง 7 ราย และบนทาง 33 ราย และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาต้องห้าม จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 39 ราย
“นอกจากนี้ ยังพบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะหรือวิธีการต้องห้าม เช่น ลดราคา แลก แจก แถม เป็นต้น โทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 25 ราย ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 7 ราย โดยพบจำหน่ายบนเรือโดยสารสาธารณะ 1 ราย และสวนสาธารณะ 6 ราย ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3 ราย และยังพบความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มี/ไม่แสดงใบอนุญาตขาย ปรับไม่เกิน 500 บาท สำหรับการขายสุราในประเทศ หรือ 2,000 บาท สำหรับการขายสุรานำเข้า 8 ราย จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศประสานกับตำรวจ เข้มงวดดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดช่วง 7 วันอันตราย เพื่อลดปัจจัยที่นำมาสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากจราจรให้ได้มากที่สุด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว
