‘บิ๊กเต่า’ สั่งทำบัญชีเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองนำเข้า พร้อมหารือห้ามขนเศษพลาสติกเข้าปท.ภายใน 2 ปี

“บิ๊กเต่า” สั่งทำบัญชีเครื่องใช้ฟ้ามือสองห้ามนำเข้า หวั่นสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม พร้อมหารือห้ามนำเข้าเศษพลาสติกภายใน 2 ปี แนะโรงงานรีไซเคิลพลาสติกปรับตัวสร้างมาตรฐานรองรับขยะในประเทศ

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างระบบ ครั้งที่ 1/2561 โดยนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และนายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ยังไม่มีข้อยุติในรายละเอียด โดยได้มีการหารือถึงประเด็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มือสองหรืออียูส ( E-Use) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทบทวนเพื่อแก้ไขบัญชีรายชื่อการนำเข้าอียูสโดยให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศการห้ามนำเข้า เช่น ประเภท จอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ ที่ยังมีการนำเข้าอยู่ และนำมาถอดอุปกรณ์แยกซึ่งเราไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้อีกแล้ว เพราะเมื่อนำเข้ามาแรกๆ ก็เป็นอียูส แต่พอผ่านไปสักระยะก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ซึ่งวันนี้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนแล้วให้ทุกคนกลับไปทำการบ้าน จากนั้นจึงจะกลับมาประชุมอีกครั้งโดยจะมีรายละเอียดว่ารายการสินค้าชื่ออะไรบ้างที่จะห้ามนำเข้า เพื่อให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลังปฏิบัติได้ถูกต้องต่อไป

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นในเรื่องเศษพลาสติก เราก็เน้นว่าต้องเป็นพลาสติกสะอาดตามมาตรฐานไม่ให้มีการมาล้างหรือปนเปื้อน ส่วนที่ปลอมปนเข้ามาและมีค้างอยู่นั้นก็พยายามส่งคืนต้นทางให้หมด และมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เข้ามาอีก ซึ่งต้องไปหารือในรายละเอียด อย่างไรก็ตามในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศนั้น มีข้อกำหนดชัดเจนว่าจะต้องใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นส่วนผสมในสินค้าที่ผลิต จึงเป็นสาเหตุให้มีการนำเข้าพลาสติกจากต่างประเทศเพื่อไปสู่กระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกภายในประเทศ แต่ที่ประเทศไทยอนุญาตให้นำเข้านั้นต้องเป็นพลาสติกที่สะอาด เป็นชิ้น ไม่มีการต้องมาล้างในประเทศไทย ไม่มีการปนเปื้อนเข้ามา เป็นไปตามกฎหมายปกติของเรา แต่ที่เราคุยกันทำอย่างไรเราจะห้ามในส่วนที่มันปนเปื้อนเข้ามา อย่างไรก็ตามถึงแม้พลาสติกในประเทศไทยจะมีเป็นจำนวนมากแต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐาน เพราะยังมีความสกปรกและขุ่นมาก โดยเบื้องต้นได้พูดคุยกันว่าในช่วง 2 ปีนี้จะต้องมีการปรับปรุงมาตรฐานพลาสติกรีไซเคิลของเราให้มีความใสสะอาดเทียบเท่าต่างประเทศ เพื่อยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกให้ได้ในที่สุด โดยโรงงานที่เกิดขึ้นแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะต้องปรับตัวและสร้างมาตรฐานทำให้เศษพลาสติกมีความใสสะอาด เพื่อรองรับการรีไซเคิลภายในประเทศให้ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image