เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตประธาน
โดยนายเนติวิทย์ ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า
“1 ปีผ่านไปสำหรับเหตุการณ์ถวายสัตย์ปฏิญาณซึ่งเป็นเหตุนำมาสู่การปลดผมและเพื่อนนิสิตรวม 8 คนออกจากสภานิสิต
ผมจะไม่ขอกล่าวบอกว่าตนและเพื่อนมีเหตุผลอย่างไรเพราะอธิบายไปแล้ว
จริงๆเรื่องนี้ถ้าดูดีๆจะเห็นว่า มีความจงใจขนาดไหนในการปลดผมออก ไปไล่ดูรายชื่อกรรมการก็จะรู้ เรื่องความยุติธรรมมาทีหลังสำหรับกรณีนี้ แต่ผมก็เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยถูกบีบอยู่ไม่น้อยจากคนนอกที่มีอิทธิพลและคนในที่มีอิทธิพล กระบวนการอุทธรณ์คดีผม ถูกยื้อไปถึง4เดือน
แต่หากมหาวิทยาลัยจะพยายามตาชั่งไม่เอียงไปกว่านี้ ผู้บริหารก็ไม่ควรนิ่งเฉยกับ ‘ อาจารย์ล็อคคอ ซึ่งยังลอยนวล’ เป็นอนุสาสกหอใน ตำแหน่งทรงเกียรติอยู่
อาจารย์ที่เข้ามายึดโทรศัพท์ในเหตุการณ์ ถูกร้องเรียนไปแล้วว่า ‘ คัดลอกผลงานทางวิชาการ(Academic Plagiarism) สำหรับวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเธอ’ (ใครอยากได้ข้อมูลเอกสารหลักฐานผมมีให้) ก็ยังลอยนวล เป็นอาจารย์ในคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาได้อยู่ ไม่สะทกสะท้าน และ ชาวบ้านที่สวนหลวงก็ยังเดือดร้อนอยู่
มหาวิทยาลัยควรจะทำอะไรสักอย่างในกรณีเหล่านี้ มิใช่นิ่งเฉย หรือเห็นแก่ว่าเป็นพรรคพวกของตน”