นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตั้งเป้าหมายขุดบ่อบาดาลทั่วประเทศจำนวน 6,000 บ่อ สำหรับ 4 โครงการหลักคือ 1.น้ำบาดาลเพื่อการเกษตร 2.น้ำบาดาลเพื่อโรงเรียน 3.น้ำบาดาลเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และ 4.น้ำบาดาลเพื่อแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้ในพื้นที่ที่ระบบประปายังเข้าไม่ถึง โดยเวลานี้ขุดสำเร็จสามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้แล้วประมาณ 3,000 บ่อ
“ตอนนี้เราระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทำงานกันทั้งกลางวันและกลางคืนเลย เพราะความเดือดร้อนของประชาชนที่ขาดแคลนน้ำนั้นรอไม่ได้ โดยมุ่งตรงไปที่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาก่อน เนื่องจากเวลานี้ปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยานั้นมีน้อยมาก พื้นที่ท้ายเขื่อนและปลายคลองชลประทานหลายแห่งชาวชาวบ้านเริ่มเดือดร้อนกันแล้ว โดยในจำนวน 3,000 บ่อ ที่เราขุดเสร็จไปแล้วนั้น เป็นบ่อที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจำนวน 2,195 บ่อ โดยแต่ละบ่อที่ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลไปขุดเจาะให้นั้น เป็นบ่อน้ำที่ได้มาตรฐานมีอายุการใช้งานประมาณ 20 ปี มีความลึกตั้งแต่ 100-300 เมตร แล้วแต่พื้นที่ จะได้น้ำเฉลี่ยบ่อละ 10 ลูกบาศก์เมตร ต่อ 1 ชั่วโมง”นายสุวัฒน์ กล่าว
รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า หลักเกณฑ์แต่เดิมของการเข้าไปขุดบ่อบาดาลในแต่ละพื้นที่ ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนั้น จะต้อง มีคำขอจากประชาชน ส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น และทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขุดเจาะตามข้อมูลพื้นที่ 27 จังหวัด 4,911 หมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง แต่ภายหลังจากที่หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับเหตุการณ์จริง โดยหลังจากขุดเจาะเรียบร้อยแล้ว จะส่งมอบให้กับท้องถิ่นรับไปจัดการดูแลต่อไป ส่วนน้ำบาดาลในโรงเรียนก็มอบให้โรงเรียนดูแล
