ผู้สูงอายุถือบัตรคนจนเฮ พม.เพิ่มเงินให้อีก 50-100 บาทต่อเดือนเริ่ม 15 ส.ค.

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่โรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในงานคิกอ็อฟการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า พม.ร่วมกับกระทรวงการคลัง ดำเนินการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนกว่า 4 ล้านคน ผ่านการเพิ่มแหล่งเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุอีก 2 แหล่ง คือ 1.กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร จากการเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ 2 แต่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี และ2.ให้ผู้สูงอายุที่ไม่เดือดร้อนทางการเงิน บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพิ่มเติมแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ จะทำให้ผู้สูงอายุในโครงการที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 100 บาท จากเดิมได้รับ 300 บาท รวมเป็น 400 บาท ขณะที่ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 50 บาท จากเดิมได้รับ 200 บาท รวมเป็น 250 บาท โดยจะมีการจ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือน เริ่มจ่ายครั้งแรกในวันที่ 15 สิงหาคมไปจนถึง 15 มีนาคม 2562 โดยการจ่ายเงินของเดือนสิงหาคมเป็นการจ่ายสมทบย้อนหลังของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วย

รมว.พม.กล่าวอีกว่า ฉะนั้นผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำบัตรไปกดเงินสดได้ที่ตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และกดเงินขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100 บาท โดยไม่มีค่าธรรมเนียม หรือสามารถนำไปรูดซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าผ่านแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” หรือสามารถเก็บสะสมเงินในบัตรสำหรับใช้ในเดือนต่อไปได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมพิจารณาการจ่ายเงินเพิ่มเติมดังกล่าว ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรในเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งจะดูจากยอดรายรับที่เข้ามาในกองทุนฯ หากเข้ามามากก็จะปรับเพิ่มให้ หากเข้ามาน้อยก็จะลด แต่คิดว่าจะให้ต่อเนื่องต่อไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงินเพิ่ม 50-100 บาทต่อเดือนที่กองทุนผู้สูงอายุเพิ่มให้ข้างต้นนั้น แตกต่างกับการให้เงินในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เดิมเพียงรูดซื้อสินค้าและบริการที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และหากไม่ใช้ภายในเดือนนั้นวงเงินที่มีจะถูกตัดไป แต่เงินเพิ่มเติมนี้ผู้มีสิทธิ์สามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้ได้อย่างอื่นได้ หรือใช้รูดซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าหรือร้านค้าอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และหากไม่ใช่เงินก็จะทบยอดสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ผู้สูงอายุจะต้องนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปกดใส่รหัสบัตรที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ก่อนจะใช้สิทธิ์กดเงินสดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image