เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามโฆษกส่วนตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้สัมภาษณ์ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางกลับมาจากเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างพักผ่อนส่วนตัว หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการลงนามความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้อง (Sister Cities) ระหว่างวันที่ 18-23 มกราคม อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ คงจะไม่ออกมาแถลงข่าวหรือกล่าวถึงประเด็นที่เกิดขึ้นระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากไม่ต้องการให้เป็นการตอบโต้กันไปมา ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่มีประเด็นอะไรแล้วที่ต้องกล่าวซ้ำอีก โดยถือว่าคณะผู้บริหารได้แถลงข่าวครบถ้วนแล้ว เนื้อหาทุกอย่างก็ได้ผ่านการพิจารณาร่วมกับผู้ว่าฯกทม.ทั้งหมด โดยยืนยันว่าผู้ว่าฯกทม. และผู้บริหาร กทม. ยังคงเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และยังคงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการตรวจสอบการทำงาน โดยเชื่อว่าระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ สักวันก็คงกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงฝ่ายการเมืองจากศาลาว่าการ กทม. กล่าวว่า ผู้บริหาร กทม.บางส่วนได้ตั้งข้อสังเกตและวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเหตุใดทางพรรคจึงเพิ่งมาตรวจสอบการทำงานของ กทม.ในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. ที่เคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หากจะตรวจสอบ กทม. ในช่วงเวลานั้นก็ทำได้ เพราะเรื่องที่นายวิลาศ ออกมาตรวจสอบก็เป็นเรื่องเก่า ทั้งการจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสและการติดตั้งกล้องซีซีทีวี มีเพียงเรื่องไฟประดับเท่านั้นที่เป็นเรื่องใหม่ อีกทั้งเรื่องทั้งหมดก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบแล้ว ทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดังนั้น เรื่องจากทางภาคประชาชนก็น่าจะจบได้แล้ว ปล่อยให้การพิจารณาเป็นไปตามขั้นตอน และที่ผ่านมา กทม.ก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ในการให้เอกสารและข้อมูลที่ทุกฝ่ายต้องการ แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์กลับออกมาแถลงข่าวตัดความรับผิดชอบ กทม. เนื่องจาก กทม.ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และกล่าวเหมือน กทม.ตรวจสอบไม่ได้ ทั้งๆ ที่ กทม.ถูกตรวจสอบการทำงานมาโดยตลอด และทุกคนก็สามารถตรวจสอบ กทม.ได้ ซึ่งเมื่อก่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ออกมาตรวจสอบ กทม.โดยตลอด แต่ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ออกมามีบทบาทในช่วงนั้น อยู่ๆ ก็ออกมาในช่วงนี้ จึงแน่ใจว่าทางพรรคประชาธิปัตย์มีเหตุจูงใจหรือมีเจตนาพิเศษใดๆ หรือไม่ ซึ่งทำให้ขณะนี้ประชาชนต่างสนใจว่าสิ่งที่พรรคทำกับกทม.ทั้งๆ ที่อยู่พรรคเดียวกันนั้น ทำไปเพราะอะไร
