ตามที่ นางสาวปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม อดีตนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่เปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งและผู้มีรายได้น้อย ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในพม.ไม่ทำตามสัญญา ที่บอกว่าเรียนจบแล้วจะรับเข้าทำงาน โดยรับปากต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายนั้น
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ (กยค.) ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งและผู้มีรายได้น้อยขึ้น เราไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้ดำเนินในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนก่อน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสการทำงานของข้าราชการพม.
ขณะที่ กรณีน้องแบม เราพยายามติดต่อ แต่ช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ ป.ป.ท.ไม่ให้เราคุยกับน้องแบมเลย เพราะกลัวว่าอาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน จากนั้นเราก็เงียบไปจนสอบสวนมาถึงขั้นหนึ่งที่เริ่มมีความโปร่งใสเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้พม.จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้น้องแบมโดยท่านจะเป็นผู้มอบเอง ทำให้พม.ได้เจอกับน้องแบมเป็นครั้งแรก วันนั้นได้มีการพูดคุยกัน นายกฯได้มอบหมายให้เราดูแล ตนก็มอบให้นางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดพม.เป็นผู้ประสานงานหลักและดูแลเรื่องนี้ ซึ่งทราบว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ได้ก็โทรศัพท์และไลน์ติดต่อกันตลอด เพียงแต่ว่าศึกษาจบเมื่อไหร่ไม่ได้แจ้งมา และไม่ได้แสดงความจำนงว่าจะมาทำงาน 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่พูดคุยว่าจบแล้วอยากมาทำงาน
รมว.พม.กล่าวอีกว่า แต่การมาทำงานที่ พม.จะต้องสอบบรรจุข้าราชการตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งหากไม่สอบแต่จะให้เป็นกรณีพิเศษ ก็จะต้องตกลงกับ ก.พ.ก่อน มันก็เหมือนกันกับที่ป.ป.ท.รับน้องเข้าทำงาน ว่าต้องหารือกับก.พ.ก่อน เพราะระเบียบราชการทุกกรมไม่สามารถเข้าได้เลย มันต้องมีขั้นตอน ทั้งนี้ คิดว่าน้องแบมควรมาแสดงเจตนารมณ์ ด้วยการสมัคร ไม่ใช่ส่งไลน์หรือโทรไปหาบางคน ส่วนจะเปิดหรือไม่เปิด ก็สามารถรอก่อนได้ จากนั้นหน่วยงานจะพิจารณาว่ามีตำแหน่งงานใดตรงกับวุฒิการศึกษาของน้อง หรือหากลัดขั้นตอนก็ต้องตรงไปที่ก.พ. หากก.พ.เห็นด้วยก็บรรจุได้เลย หากก.พ.ไม่เห็นด้วยก็ต้องมาสอบก.พ.เริ่มที่ภาค ก.
“เรื่องนี้ไม่ใช่ความเข้าใจผิด แต่เป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติ เพียงแต่คนไปคาดหวังว่าจะได้บรรจุเลย ซึ่งกติกามันไม่มี ทำดีมีให้รางวัล ประกาศ โล่เชิดชูเกียรติสามารถทำได้ แต่การบรรจุราชการระเบียบก.พ.ระบุชัดว่า ต้องให้มีระบบคุณธรรม ให้ความเท่าเทียมทุกคน ยกเว้นมีกรณีพิเศษให้ตกลงกับก.พ.เป็นรายกรณีไป” พล.อ.อนันตพรกล่าวและว่า
พล.อ.อนันตพรกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องมีอัตราด้วย ซึ่งที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นตอนนี้อัตราเต็ม มีอัตราข้าราชการเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้นทั้งศูนย์ นอกนั้นเป็นพนักงานราชการ และลูกจ้าง แต่หากเป็นที่อื่นจะมาก็พอได้ เพียงแต่เงื่อนไขที่เขาต้องการเราไม่มีอยู่ หรือไม่ก.พ.ต้องเพิ่มอัตราให้ศูนย์ขอนแก่นอย่างนั้นหรือ
“สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าใจเย็นนิดนึง หลายส่วนราชการต้องการน้องไปทำงานอยู่แล้ว พม.เองก็ต้องการ แต่ว่ากรอบอัตราข้าราชการพม.มีอัตราน้อยมาก บรรจุตอนนี้ยังไม่พออยู่แล้ว จำนวนบุคลากร 1.2 หมื่นคนทั้งกระทรวง มีข้าราชการเพียง 8 พันกว่าคน นอกนั้นเป็นพนักงานราชการและลูกจ้างหมด ทั้งที่ต้องดูแลคนกลุ่มเป้าหมาย 40-50 ล้านคนทั้งประเทศ ซึ่งขณะนี้ตนกำลังหารือปรับโครงสร้างกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ ยืนยันพม.ไม่ได้รังเกียจหรือปัดน้อง แต่เพราะมันมีระเบียบราชการอยู่” พล.อ.อนันตพรกล่าว
ด้าน นางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดพม. กล่าวว่า ตอนนี้น้องแบมยืนยันว่าจะทำงานที่ป.ป.ท. เราก็ให้ทางเลือกว่าหากจะรับราชการที่พม. เรามีเฉพาะจ้างเหมา ทำได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป น้องแบมบอกว่าสำนักนายกรัฐมนตรีได้โทรหาว่าจะให้ไปทำงานที่ป.ป.ท.น้องก็ยืนยันว่าจะทำงานที่ป.ป.ท.
