เมื่อวันที่ 20 เมษายน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นโยบายจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้มีการปิดบังข้อมูลโรคที่แท้จริง ว่า ขอยืนยันว่ากระทรวงไม่มีนโยบายในการปกปิดข้อมูลผู้ป่วยแต่อย่างใด มีแต่ให้เปิดเผยเพื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูลในการควบคุมการระบาดของโรคได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยไม่ถึงปีละ 10 ราย ส่วนมากพบตามจังหวัดติดชายแดน ตาก ชลบุรี และภาคอีสานตอนใต้ ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล สำหรับการรักษาโรคนั้นมีแนวทางที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้วคือหากถูกสุนัข แมว กัด หรือแค่ข่วนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และถ้าเป็นแผลลึก ต้องได้รับการฉีดเซรุ่มเพื่อกำจัดเชื้อออกไป ทั้งนี้ นโยบายคืออยากให้ปลอดโรค และดูเป็นจังหวัดๆ ซึ่งบางจังหวัดก็ปลอดโรคจริงๆ
“การฉีดวัคซีนในสุนัข สัตว์เลี้ยงทางกรมปศุสัตว์ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดำเนินการ แต่เมื่อปี 2558 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณทำให้ไม่สามารถเอางบมาใช้สำหรับฉีดวัคซีนได้ แต่ตอนนี้เห็นว่าสามารถเคลียร์กันได้แล้ว แต่ประชาชนก็ควรรับผิดชอบด้วย ถ้าเลี้ยงสุนัข เลี้ยงแมวก็ต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ้าโดนกัดก็ต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.)กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดวันที่ 20 เมษายน พบผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจวิเคราะห์และยืนยันแล้วว่าเกิดจากพิษสุนัขบ้า 3 ราย ระยอง สมุทรปราการ สงขลา เป็นคนไทยทั้งหมดส่วนปี 2558 ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตยืนยันโรคพิษสุนัขบ้า 5 ราย อย่างไรก็ตาม โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อสัตว์สู่คนร้ายแรง ผู้ติดเชื้อและแสดงอาการแล้วเสียชีวิตทุกราย จากข้อมูลผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า พบว่ากว่าร้อยละ 80 เกิดจากถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ และสุนัขเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
“สำหรับอาการเบื้องต้นในคนที่ติดเชื้อ เริ่มแรก คือ เบื่ออาหาร เจ็บคอ มีไข้ อ่อนเพลีย มีอาการคันรุนแรงบริเวณที่ถูกกัดแล้วอาการคันลามไปส่วนอื่น ต่อมาจะมีอาการกระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม ไม่ชอบเสียงดัง กลืนลำบาก โดยเฉพาะของเหลว กลัวน้ำ ปวดท้องน้อยและกล้ามเนื้อขากระตุก แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรืออาจชัก เร็ง อัมพาต หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด” นพ.อำนวยกล่าว
