เหยี่ยวถลาลม : ท้อแท้แต่ไม่อยากเห็นหน้า

หัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก อึดอัดขัดข้องไปหมดเมื่อ “คสช.” มีไมตรีไขกุญแจปลดโซ่ตรวนให้พรรคการเมืองและนักการเมืองขยับเขยื้อนแขนขาคอบ่าไหล่เคลื่อนไหวได้ เพียงแต่ห้ามใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ “หาเสียง”

เหมือนกับบอกว่า ให้ทุกคนกลับไปใช้วิธีเขียนจดหมายใส่กระดาษแล้วส่งทางไปรษณีย์ถึงกัน

ตรึงพฤติกรรมคนไทยติดเอาไว้กับ “กระดาษ” ไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปในโลกของ “กระจก” ให้อยู่กับปากกา ดินสอ ห้ามไปท่องหรือโลดแล่นแสดงออกในโลกอินเตอร์เน็ต

นี่นับว่าเป็น “ความผิดปกติ” ทางพฤติกรรมของผู้สั่งห้าม ได้หรือไม่

Advertisement

ในมุมมองของ ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย เห็นว่า แม้แต่คำว่า “หาเสียง” ของ คสช.ก็อธิบายไม่ได้ ไม่มีความหมายที่ชัดเจนแน่นอน

จะนำไปสู่การตีความ “ตามอำเภอใจ” แล้วกลั่นแกล้งรังแกกัน

สอดคล้องกับเสียงสะท้อนจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่า คสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง

Advertisement

“งานธุรการกับงานการเมืองแยกกันไม่ได้และงานการเมืองก็ไม่ใช่แค่การหาเสียง”

จึงพากันสงสัยในไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าสงบราบคาบ ถึงขั้น “ห้ามหาเสียง” ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่างนี้ก็มีด้วยหรือ

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มุ่งจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่เห็นว่า โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารที่ถูกที่สุด ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่อุดมการณ์

แต่เมื่อถูก “ห้าม” ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็คล้ายย้อนไปสู่ยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต

ยุคนั้นมี “คืนหมาหอน” เป็นสัญญาณแห่งการสื่อสารก่อนถึงรุ่งสางของวันเลือกตั้ง

แทนที่รัฐจะใช้ “จุดเด่น” ของยุค “สื่ออิเล็กทรอนิกส์” ที่มีอิทธิพลในแง่ความรวดเร็ว กว้างขวาง ไม่จำกัดเวลา และสถานที่ให้เป็น “โอกาส” สำหรับพัฒนาการเลือกตั้งให้โปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรม กลับมองเห็นการสื่อสารทางสื่อออนไลน์เป็น “อุปสรรค”

จึงเหมือนคนที่ถูกความกลัวครอบงำจนไม่กล้าสู้หน้ากับโลกภายนอก ได้แต่หมกมุ่นคิดวกไปเวียนมาอยู่ในกะละมังใบเก่า

แต่สะเออะไปประกาศกับชาวโลกว่า ประเทศไทยจะก้าวไกลสู่ยุค 4.0

ทำให้หัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก

การห้ามหาเสียงทางสื่อออนไลน์ นับเป็นอีก 1 ที่ต้องขึ้นบัญชี “เรื่องที่น่าละอาย” !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image