เมื่อวันที่ 22 เมษายน นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กล่าวว่า ขณะนี้พบปัญหาแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาจำนวนกว่าหมื่นคนตกค้างอยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.จันทบุรี โดยแรงงานเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตามกำหนด ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา เดินทางกลับประเทศต้นทางได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่จะต้องเดินทางกลับเข้ามาราชอาณาจักรไทยก่อนวันที่ 20 เมษายน โดยขณะนี้ จ.ราชบุรี แม่ทัพภาคที่ 1 และฝ่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว โดยแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ทำเรื่องขออนุญาต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ผ่อนปรนขยายเวลาเปิดให้แรงงานกัมพูชาซึ่งตกค้างเหลืออยู่พื้นที่เดียว ให้เดินทางกลับเข้ามาทำงานในไทยได้แล้ว โดยให้ขยายระยะเวลาให้แรงงานต่างด้าวกลับเข้าราชอาณาจักรไทยจนถึงวันที่ 25 เมษายนนี้
“รายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พบว่าการดำเนินการในพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีและคาดว่าเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดจะไม่มีแรงงานต่างด้าวที่เดินทางภูมิลำเนาตกค้าง ขณะที่ด่านชายแดนฝั่งพม่า ลาว แรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับประเทศต้นทางขณะนี้เดินทางกลับเข้ามาทำงานในไทยเรียบร้อยแล้วโดยไม่พบปัญหาใด” นายอารักษ์ กล่าวและว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติ ที่เดินทางกลับประเทศต้นทางมีจำนวนกว่า 2 หมื่นคน ส่วนการแก้ปัญหาลักษณะนี้ในช่วงเทศกาลต่อไปจะต้องมีการวางมาตรการล่วงหน้าให้มากกว่านี้ ขณะที่การดำเนินการช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ทุกพื้นที่ไม่มีปัญหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการประสานงานการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (อกนร.) ได้เห็นชอบจัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและส่งกลับแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน รวมทั้งตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวตามที่ กกจ.เสนอ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป สำหรับศูนย์แรกรับเข้าทำงานและส่งกลับแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดนจะทำหน้าที่ อบรม ให้ความรู้ข้อมูลการทำงานและการใช้ชีวิตในประเทศไทยให้แก่แรงงานต่างด้าว อีกจะคอยตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าวว่าถูกชักจูงหรือหลอกลวง หรือมีความพร้อมที่จะทำงาน ส่วนศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวจะทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ปรึกษา รับทราบปัญหา และประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าจะจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว ที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี ระนอง สุราษฎร์ธานี สงขลา ตาก เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ