วันที่ 25 เมษายน เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ฝ่ายตรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ พบจุดต้องสงสัยที่คาดว่าจะมีการเผานั่งยาง 23 จุด บริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ บ้านคำบอนเวียงชัย ต.หนองแวว อ.บ้านผือ จากนั้นได้เดินทางไปประชุมชุดทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวน ณ ห้องประชุม สภ.บ้านผือ ภ.จว.อุดรธานี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยฝ่ายพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ได้ทำการตรวจสอบบริเวณป่าช้าบ้านกุดจับ พบเศษกระดูกมนุษย์และยางรถยนต์ที่ถูกเผา 15 จุด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่เป็นการเผานั่งยาง ต่อมามีการตรวจสอบเพิ่มเติมพบอีก 8 จุด รวมเป็น 23 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินปูพรมเก็บหลักฐานที่ตรวจพบอย่างละเอียดเพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบ และเมื่อประชาชนได้รับทราบข่าวต่างเดินทางมาให้ข้อมูลญาติที่สูญหาย ที่เชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า จุดที่ตรวจพบดังกล่าวทั้ง 23 จุดนั้น ถือเป็นกรณีสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งรัดคลี่คลายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นได้สั่งการให้นำกระดูกที่ตรวจพบนั้นไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ สามารถตรวจเปรียบเทียบยืนยันเอกลักษณ์บุคคลได้หรือไม่ และสั่งการให้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งคนหายสาบสูญที่ สภ.บ้านผือ เพื่อทำการรับแจ้งว่ามีบุคคลสูญหายต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วว่าบุคคลที่สูญหายมีความเชื่อมโยงกับจุดที่ตรวจพบ จะมีการดำเนินการตรวจสอบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนกรณีคดีของนางบังอร ทองอ่อน อายุ 57 ปี นายทุนเงินกู้ ต.โนนทอง อ.บ้านผือ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีความเชื่อมโยงกับหลุมที่ตรวจพบนั้น ได้สั่งการให้นำสำนวนมาตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นเร็วๆ นี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีจุดที่ตรวจพบทั้งหมดนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแล ร่วมกับ ภ.4 และ ภ.จว.อุดรธานี เร่งรัดผลการสืบสวนสอบสวน ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ได้เน้นย้ำให้ใช้นิติวิทยาศาสตร์มาช่วยในการตรวจสอบ หากตรวจพบว่าสิ่งที่ตรวจพบเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องกับตำรวจนอกรีตคนไหน ยืนยันจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากประชาชนสงสัยว่าญาติสูญหายสามารถแจ้งมาได้ตลอดเวลา คดีนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน น่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงได้โดยเร็ว