อันตรายโรคช่องปาก ลุกลามติดเชื้ออวัยวะอื่น ไม่รักษาอาจตาย

แฟ้มภาพมติชน

ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย  กล่าวว่า โรคในช่องปากเป็นปัญหาสำคัญและเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การบริโภคอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม มากเกินไป   และการติดเชื้อในช่องปากจะนำไปสู่การติดเชื้อที่อวัยวะอื่นๆ โดยเชื้อจะเดินทางผ่านกระแสเลือด ท่อน้ำเหลือง ระบบทางเดินหายใจ เมื่อแพร่กระจายไปสู่ลำคอ หลอดลม และปอด อาจทำให้เกิดหลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบได้ เมื่อเชื้อโรคบางชนิด โดยเฉพาะเชื้อ Helicobacter Pylori ถูกกลืนเข้าสู่ทางเดินอาหาร อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้

เชื้อโรคจากช่องปากยังสามารถแพร่กระจายไปสู่รูหู ผ่านทางท่อที่มีติดต่อกันอยู่แล้วตามธรรมชาติ และนำไปสู่การอักเสบของหูได้ จึงควรดูแลสุขภาพในช่องปากและป้องกันปัจจัยเสี่ยงร่วม ด้วยมาตรการ 3อ. 2ส. 1ฟ. โดย 3 อ. คือ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการทำอารมณ์ให้แจ่มใส 2ส. คือ การไม่ดื่มสุราและไม่สูบบุหรี่ และ 1ฟ. คือ ตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง ร่วมกับการดูแลอนามัยช่องปากอย่างเหมาะสมด้วยสูตร 2 : 2 : 2 ได้แก่ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นานครั้งละ 2 นาที และงดรับประทานอาหารหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง และใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง

ทพ.สุธา บอกว่า โรคต่างๆ ในช่องปาก หากปล่อยให้ลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายออกจากฟันไปสู่เนื้อเยื่ออื่นๆ บางครั้งการติดเชื้ออาจลามไปยังบริเวณที่สำคัญ เช่น ใต้คาง ใต้ตา อาการปวดและบวมจะรุนแรงขึ้น สำหรับผู้ที่เป็นโรคปริทันต์และมีอาการบวมเข้าไปในช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อบางตำแหน่งจะกดหลอดลม เป็นเหตุให้หายใจไม่ออก ถ้าหากเชื้อนั้นมีความรุนแรงมาก อาจมีอันตรายถึงชีวิต

 ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย
ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image