กรมศิลป์จ่อเอาผิดคนทาสีทองวัดเก่า หลังโซเชียลเดือด นักวิชาการโวยทำมา2ปีทำไมเพิ่งขยับ

จากกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบูรณะวัดที่ทางสีทีโอเอร่วมกับกลุ่มช่างคนร่วมทาง ทาสีทองทับวัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2560 จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการบูรณะที่ทำลายโบราณสถาน ไม่มีการศึกษาค้นคว้าข้อมูลการอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขอประชาสัมพันธ์ถึงวัดและผู้มีจิตศรัทธา ว่าถ้าท่านมีความประสงค์ที่จะซ่อมแซม บูรณะ ปฏิสังขรณ์ ศาสนสถานในวัดที่เป็นโบราณสถาน ทั้งที่ประกาศขึ้นทะเบียนแล้วหรือยังไม่ประกาศก็ตาม ท่านต้องแจ้งความประสงค์ที่ กรมศิลปากร หรือหน่วยงานสังกัตกรมศิลปากรในส่วนภูมิภาคก่อนดำเนินงาน เพื่อเป็นการให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาแนวทางอนุรักษ์โบราณสถาน ให้ออกมางดงาม และยังคงคุณค่าความเป็นโบราณสถานนั้นไว้

“หากท่านดำเนินการโดยไม่แจ้งยังกรมศิลปากร อาจทำให้เกิดการบูรณะที่ไม่เหมาะสมจนโบราณสถานหมดคุณค่าทางหลักฐาน ความงดงามลดลง และถือว่ามีความผิดตามกฏหมายด้วย เพื่อคุณค่าโบราณสถานของชาติยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต”

อีกกรณีหนึ่งที่เพจ TOA Paint ระบุว่ามีการบูรณะวัดโพธาราม จ.สุพรรณบุรี เมื่อเดือนธันวาคม 2559 โดยทาสีทองทั้งหลัง

ล่าสุด วันที่ 24 ตุลาคม 2561 สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กรมศิลปากร เข้าไปคอมเมนต์ในรูปดังกล่าวขอให้ทีโอเอกรุณาลบเเท็กหน่วยงานออกด้วย เนื่องจากการดำเนินการครั้งนี้สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เเละกรมศิลปากรเองไม่มีนโยบายที่จะใช้วิธีการนี้ในการบูรณะโบราณสถาน ดังนั้นการโฆษณาของท่านในลักษณะนี้อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กำลังดำเนินการเก็บหลักฐานวัดทุกวัด(ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ)ที่ถูกบูรณะทาสีทองด้วยฝีมือเอกชนกลุ่มดังกล่าวนี้ เพื่อดำเนินการทางกฏหมายในกรณีที่วัดนั้นมีสถานะเป็นโบราณสถานต่อไป

โดย ดร.ลลิตา หาญวงษ์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “เขาโพสต์มาตั้งแต่ 2016 แล้ว แต่กรมศิลป์เพิ่งจะทราบข่าว จะบอกว่าคนที่สำนักฯไม่เคยเห็นเลยว่ามีการบูรณะวัดให้เป็นแบบนี้ก็คงจะไม่ใช่ล่ะมั้งคะ หรือเป็นเพราะกระแสโซเชียลถึงทำให้สำนักฯต้องออกตัวก็ไม่รู้”

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่