ทีมศึกษาโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แจงสภากทม. ยันไม่ใช่สร้างถนนขนาดใหญ่

ทีมศึกษาโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แจงผลการดำเนินโครงการ ยันไม่ใช่การสร้างถนนขนาดใหญ่ 8พ.ค.เตรียมสร้างศูนย์เรียนรู้เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการที่สะพานพระราม 8

เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายสกุล ห่อวโนทยาน ผู้จัดโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นำทีมงานออกแบบและศึกษาจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมน้ำเจ้าพระยา 57 กิโลเมตร ชี้แจงต่อสมาชิกสภากรุงเทพมหานครนำโดย ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร ภายหลังจัดการการลงประชามติเกี่ยวกับโครงการ ไปเมื่อ 22 เมษายน และมีเวลาในการศึกษาโครงการอีก 7 เดือน ซึ่งการดำเนินโครงการได้ลงนามในสัญญากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้วงเงิน 120 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่นำร่องสองฝั่งรวม 14 กิโลเมตร จากสะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

แจงสภากทม.

ทั้งนี้สมาชิก กทม. ได้สอบถามความคืบหน้าและจุดประสงค์การดำเนินโครงการ โดยเฉพาะการจัดการกับชุมชนริมน้ำ และการสร้างกระบวนการรับรู้ที่ทั่วถึง รวมถึงระบบการจัดการโครงการ

Advertisement

ด้านฝ่ายผู้จัดโครงการ ยืนยันว่า ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่และพบว่า ในระยะ 14 กิโลเมตร จะมีชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 12 ชุมชน 309 ครอบครัว ได้สำรวจเบื้องต้นเพื่อหาปัญหา ซึ่งนอกจากชุมชนที่ได้รับปัญหา ยังมีธุรกิจริมน้ำที่ต้องเข้าไปจัดการ พร้อมยืนยันว่า โครงการนี้ไม่ใช่การสร้างถนนขนาดใหญ่ แต่เป็นการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำให้มีประโยชน์ และเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพ พร้อมดำเนินโครงการโดยยึดความเป็นมรดกโลก และมรดกชาติ

ผู้จัดโครงการยังยืนยันว่าในส่วนของการเวนคืนที่ดินจะไม่มีอย่างแน่นอน แต่จะเป็นการชดเชยพื้นที่ ซึ่งคำนวณแล้วจะใช้งบราว 24 ล้านบาท ส่วนประชาชนที่มีปัญหาเรื่องที่อาศัย ได้ติดต่อแฟลต ขส.ทบ. ให้เป็นที่พักอาศัย โดยมี 64 ครอบครัวยิรดีย้ายเข้าแฟลต หรือผลักดันให้เข้าโครงการของรัฐ รวมถึงการติดต่อขอซื้อพื้นที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย นอกจากนี้จะสร้างกระบวนการรับรู้ของประชาชนด้วยการตั้งศูนย์เรียนรู้ชั่วคราวบริเวณสะพานพระราม 8 ในวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 2559 เพื่อเป็นจุดประชาสัมพันธ์วัตถุประสงค์ของโครงการด้วย

ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์

Advertisement

ขณะที่ ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ มองว่า โครงการนี้ยังไม่มีความชัดเจนเพราะเพิ่งอยู่ในระยะศึกษาหาข้อมูล ซึ่งยังต้องใช้เวลา และมีปัญหาหลายอย่าง ที่ต้องอาศัยความเข้าใจกับประชาชน ทั้งประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ซึ่งอาศัยมาเป็นเวลานาน หรือแม้แต่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจริมน้ำ ส่วนเรื่องความกังวลเกี่ยวกับระยะเวลา ส่วนตัวมองว่า ควรเร่งโครงการให้เสร็จในรัฐบาลนี้ หรือในระยะเวลาปีกว่าๆ เพราะความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะทำให้โครงสำเร็จได้ ส่วนเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วโครงการจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ขอตอบเพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image