เหยี่ยวถลาลม : ยุบให้สิ้นอย่าให้เหลือ

ดูเหมือน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะออกอาการรำคาญใจ ไม่สบอารมณ์ที่มีเพื่อนฝูงคนสนิทบ้างไม่สนิทบ้าง คนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยบ้าง และไม่ได้อยู่บ้างไปพบปะเจอะเจอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เพียง ป.ประวิตรเอื้อนเอ่ยวาจาให้ “กกต.” ตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือไม่ ก็มีการกล่าวถึง “การยุบพรรคเพื่อไทย” กันอีกแล้ว

น่าแปลกหรือไม่ ที่ในประเทศหนึ่ง มีอยู่เพียง “หนึ่ง” พรรคการเมืองเท่านั้น ที่ถูกยุบแล้วยุบอีก ซึ่งที่จริงก็น่าจะยอมยกธงขาวโบกมือลาจากเวทีการเมืองไป

แต่ทำไมนายไม่ยอมเลิก นายยังอึด ยังฮึดสู้อยู่จนกลายเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีชื่อมาแล้ว ถึง 3 ชื่อ

Advertisement

พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. อธิบายความตามหลักกฎหมายนั้นว่า ถ้าจะผิดพรรคการเมืองนั้นต้องยินยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองที่ทำให้พรรคการเมืองนั้น หรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน ทั้งจากภาพถ่าย คลิป และข่าว รวมถึงความเห็นของบุคคลต่างๆ เพื่อนำมาพิจารณาว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่

กฎหมายนี้เข้มข้นจริงๆ เพิ่งประกาศใช้มาได้ปีเดียว จะมีพรรคการเมืองเซ่นสังเวยเสียแล้ว

แต่จะว่าไป บทบัญญัติแบบนี้ก็น่าจะมีสำหรับบังคับและควบคุมพฤติการณ์ของผู้ที่มีอำนาจใน “องค์กรอิสระ” ทุกองค์กรด้วย

Advertisement

ถ้าหากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษและพิสูจน์ได้ว่า องค์กรอิสระใดหรือบุคคลใดขององค์กรถูกครอบงำ หรือยอมรับการชี้นำจากบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในองค์กรนั้น จนขาดความเป็นอิสระ เอนเอียง หรือเกรงใจจนทำหน้าที่ได้ไม่สะดวก ก็ให้ไล่ออกบุคคลนั้นเสีย

หรือให้ยุบองค์กรอิสระนั้นทิ้งเสีย จะได้ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ

ให้ไล่ออกกันไปเรื่อยๆ หรือไล่ยุบองค์กรทิ้งกันไปเรื่อยๆ นานๆ เข้าน่าจะเลิกกันไปเอง

ด้วยวิธีคิดแบบเดียวกัน เชื่อว่าไม่นานจะเกิดมาตรฐานเดียว

ว่าแต่ วันนี้ “กกต.” ไม่เคยรู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ที่มี “หัวหน้าพรรคการเมือง” และคณะนั่งอยู่ใน ครม. เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image