เมื่อวันที่ 28 เมษายน กรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงานร่วมกับสำนักส่งเสริมการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนจัดงานเสวนาทางวิชาการ “การปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 กับทิศทางตลาดแรงงาน” โดยมี ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวว่า การเสวนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้ทราบถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน รวมถึงตระหนักรู้ในการเปลี่ยนแปลงของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการวิเคราะห์สภาวะตลาดแรงงาน วิธีการจัดหางานให้บรรลุผล ส่งเสริมการมีงานทำอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต โดยไม่ยึดติดกับกรอบการทำงานในแบบเดิม ซึ่งกกจ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงแรงงานก็ต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ เน้นสร้างงานและอาชีพให้ทันสมัย
นายไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเศรษฐศาสตร์การศึกษา สำนักส่งเสริมการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) กล่าวในการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง แนวทางการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในการปฎิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ว่า เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่จะมีการใช้เครื่องจักรในการทำงานมากขึ้น และแรงงานจะเป็นแค่ผู้ควบคุมเครื่องจักรเท่านั้น นอกจากนี้อาชีพที่มีในปัจจุบันจะหายไปและเกิดขึ้นใหม่ประมาณร้อยละ 65 โดยอาชีพสถาปนิก ค้าขาย วิศวกร คอมพิวเตอร์ จะยังคงมีอยู่แต่ระบบงานจะเปลี่ยนไป ส่วนกลุ่มงานออฟฟิศ งานการผลิต การกีฬา และการบันเทิง เป็นต้น นั้นจะหายไป ส่วนตามทักษะที่เป็นที่ต้องการในอนาคตมี 3 ทักษะ คือ 1.ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน 2.การคิดวิเคราะห์และ 3.ความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นกระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จึงเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ให้กับกำลังแรงงานไทย เพราะความต้องการของคนรุ่นใหม่กว่าร้อยละ 70 ไม่ต้องการเป็นลูกจ้างแต่อยากเป็นผู้ประกอบการ
ด้านน.ส.จินางค์กูร โรจนนันต์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า อุตสาหกรรมในอนาคตไม่ได้ใช้แรงงานจำนวนมากเช่นปัจจุบัน แต่จะใช้สมองมากขึ้น หากไทยไม่ปรับตัวนักลงทุนจะย้ายฐานการผลิต ดังนั้นประเทศไทยต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะแรงงาน ที่ต้องมีทักษะรอบด้าน ทั้งทักษะด้านภาษา เทคโนโลยี ความคิดที่สามารถวิเคราะห์ และแก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี
