สภากทม.ครบรอบ 43 ปี “บิ๊กป๊อก” ชมทำงานดูแลเมืองหลวงดี

เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการเสวนาและให้นโยบายการทำงานแก่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เนื่องในโอกาส วันสถาปนาสภากทม.ครบรอบ 43 ปี โดยมี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. สมาชิกสภากทม. คณะผู้บริหารกทม. และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กทม.เป็นหน่วยงานสำคัญ ไม่เพียงดูแลและรับผิดชอบเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนเท่านั้น แต่จะต้องดูแลกรุงเทพมหานคร ในฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่มีประชากรแฝงอยู่จำนวนมาก มีปัญหาของเมืองที่หลากหลาย และมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆที่ต้องดูแลให้คลอบคลุม ทำให้การทำงานมีความยาก ต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น เพื่อให้งานเกิดผลสำเร็จสูงสุด โดยการทำงานที่ทำให้ประชาชนเห็นการทำงานที่ร่วมมือร่วมใจ เป็นการทำงานที่ดี ไม่ใช่ทำงานให้ประชาชนเห็นแต่ความขัดแย้ง ดังนั้นขอให้การทำงานมีความกลมเกลียว ไม่ขัดแย้งกัน และให้ยึดประชาชนเป็นหลัก ดำเนินอยู่ต่อไปเพื่อดูแลคุณภาพชีวิต ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง ความปลอดภัย ตามหลักธรรมมาภิบาล โดยตนจะนำแนวทางดังกล่าวไปใช้กับท้องถิ่นอื่นอีก 7,000 กว่าแห่ง ให้ประเทศไทยเกิดผลสำเร็จ

ด้าน ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สมาชิกสภากทม.มีความมุ่งมั่นทำงาน ถึงแม้สมาชิกจะมีจำนวนจำกัด แต่จะใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ ทำหน้าที่ดูแล ช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นลงพื้นที่ เพื่อดูแลความเดือดร้อนของประชาชน และวางแนวทาง ประสานงานการแก้ปัญหาบริการประชาชนให้รวดเร็ว ตามนโยบายของภาครัฐ อีกทั้งสภากทม.มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารกทม. ให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม ถูกต้อง และใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ภารกิจของกทม.เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีความสลับซับซ้อนและครอบคลุมทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งใน 7 ปีที่ผ่านมา การทำหน้าที่ของกทม. ในการบริหารจัดการเมืองนั้น พบว่าประชาชนให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น มีการฝากความคาดหวังไว้ที่กทม.ในด้านความปลอดภัย ดังนั้นสิ่งสำคัญในการทำงานคือความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ที่จะต้องเดินหน้าร่วมกันในทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงบประมาณเท่านั้น แต่การเป็นหูเป็นตา การให้คำแนะนำ เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานเพื่อประชาชนให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้กรุงเทพฯกลายเป็นมหานครแห่งความสุขมากที่สุด