เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 เมษายน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบก.สส.ภ.2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งปล้นเงินบริษัท สยาม แอดมินนิสเทรทีฟ แมเนจเม้นท์ จำกัด (แซมโก้) ขณะพนักงานขนเงินเตรียมนำเงินเข้าตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งอยู่หน้าห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขา 2605 หนองข้างคอก ตั้งอยู่เลขที่ 52/50 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยได้เงินสดไป 5,369,000 บาท
ทั้งนี้ตำรวจได้จับกุม นายออมสิน หรือหนึ่ง สครีตัน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/164 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี น.ส.กรวิกา หรือฟ้า สำเรืองจิตร อายุ 31 ปี แฟนสาวของนายออมสิน อยู่บ้านเลขที่ 568 หมู่ 10 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายโยธิน หรือโจ สำเรืองจิตร อายุ 29 ปี น้องชายของ น.ส.กรวิกา และนายยุทธนา หรืออึ่ง กิตติยุทธนาวิน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/35 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง รถตู้โตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ฮบ -9863 กรุงเทพมหานคร เงินสด 50,000 บาท ยึดได้จากนายยุทธนา ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งที่นายออมสินให้เป็นค่าร่วมปล้นเงิน และเศษถุงทะเล บริษัท สยาม แอดมินนิสเทรทีฟ แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ถูกเผาพบบริเวณป่า ข้างสุสานจีน วัดสันติภักดิ์ ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยนายยุทธนา ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมปล้นเงินในครั้งนี้ ส่วนนายออมสิน น.ส.กรวิกา และนายโยธินให้การปฏิเสธ
หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัว นายโยธินไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ วัดสันติภักดิ์ ต.เหมือง และหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งอยู่หน้าห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส หนองข้างคอก รวมทั้งได้นำตัวน.ส.กรวิกา และนายโยธิน ไปดูจุดเกิดเหตุที่ห้างโลตัสอีกด้วย
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้มีการวางแผนก่อนการเข้าปล้นเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งอยู่หน้าห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาหนองข้างคอกนานกว่า 2 สัปดาห์ โดยมีการชี้แจงว่า จุดดังกล่าวได้เคยมีการปล้นเงินมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นนายออมสินได้นำโทรศัพท์ใหม่มาแจก เพื่อเป็นการทำงานเฉพาะกิจ หลังจากนั้นได้เริ่มมีการลงมือวันที่ 26 มีนาคม แต่ไม่สำเร็จ จึงได้เปลี่ยนแผนมาเป็นวันที่ 27 มีนาคม โดยนายออมสินได้ใช้รถจักรยานยนต์พุ่มพวงมาจอดหน้าห้างโลตัส แล้วใช้อาวุธปืนปล้นเงินแล้วหลบหนีไป
หลังจากนั้นได้ขี่ไปยังจุดนัดพบป่ามะม่วง ซึ่งนายยุทธนาได้ขับรถตู้มาจอดรอไว้ เมื่อมาถึงได้ยกรถจักรยานยนต์พร้อมเงินขึ้นรถตู้แล้วขับมาที่วัดสันติภักดิ์ โดยมีนายออมสินนั่งข้างซ้ายข้างคนขับ เมื่อมาถึงวัดดังกล่าว นายยุทธนาได้นำจักรยานยนต์ลงจากรถตู้ แล้วทิ้งถุงเงินไว้ในรถตู้ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนนายออมสินได้นำถุงเงินเอาไปเผาบริเวณป่าข้างสุสานจีน วัดสันติภักดิ์ ก่อนที่จะหลบหนีไป หลังจากนั้นได้ทยอยให้เงินนายยุทธนา ครั้งแรก 10,000 บาท ต่อมาอีก 20,000 บาท ล่าสุดให้ 100,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าอาจจะทำให้คนอื่นสงสัยว่ามีเงินใช้จ่ายมากผิดปกติ
ในการจับกุมครั้งนี้ได้มีการระดมกำลังตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภาค 2 ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และภาพวงจรปิด โดยรถตู้มีโลโก้ช่อง 3 ติดอยู่ด้านหลัง จึงได้เป็นเบาะแสในการจับกุมตัวคนร้าย ส่วน น.ส.กรวิกา ร่วมกระทำผิดเพราะเป็นผู้ไปเช่ารถตู้ที่พัทยามาก่อเหตุ ส่วนนายโยธินเป็นผู้นำเงินไปชำระเงินค่ารถตู้ที่เช่ามา
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา 3 คนให้การปฏิเสธนั้น ไม่หนักใจแต่อย่างใด เพราะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ครบถ้วนแล้ว ทั้งพยานบุคคล พยานทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าสามารถเอาผิดกับผู้ที่ร่วมปล้นเงินในครั้งนี้ได้ทั้งหมด ส่วนนายออมสินที่ไม่ได้นำตัวมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย เพราะช่วงที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำ เกิดอาการเครียดและได้ใช้ศีรษะโขกกับพื้นปูนมีรอยแผล เกรงว่าหากนำตัวมาปรากฏต่อสาธารณะชนจะเกิดปัญหาตามมา ยอมรับว่าการปล้นเงินในครั้งนี้วางแผนมาแยบยลมาก แต่ก็ไม่พ้นมือตำรวจ ที่สำคัญการทำงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นฝีมือตำรวจภูธรล้วนๆ
