พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ควรจะหยุดได้แล้ว เพราะนับวัน “คะแนนนิยม” ยิ่งจะถดถอยลง อันเป็นธรรมชาติของ “ผู้นำฝ่ายบริหาร” ที่อยู่นาน
เช่นนี้ ระบอบประชาธิปไตยจึงออกแบบด้วยการกำหนด “วาระ” ให้อยู่ในตำแหน่งกันคราวละ 4-5 ปี หลังจากนั้นให้มี “การเลือกตั้ง” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนถ่ายอำนาจกันโดยสันติ
“การเปลี่ยนถ่ายอำนาจโดยสันติ” เป็นทั้งกฎหมายและจริยธรรมในประเทศที่พัฒนาแล้ว
การใช้กำลังทหารและอาวุธเข้ายึดอำนาจจากฝ่ายบริหารเป็นเรื่องผิดกฎหมายและเป็นความอับอายชนิดแทบแทรกแผ่นดินหนี
การเปลี่ยนถ่ายอำนาจบริหารต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์นั้นรักชอบและเลือกที่จะเป็นทหาร รับราชการทหารจนเป็นถึง “ผบ.เหล่าทัพ” ถึงแม้วันนี้คิดจะเปลี่ยนตัวเองเป็น “นักการเมือง” ในระบอบประชาธิปไตย แต่ประวัติศาสตร์ก็ชี้เอาไว้ชัดว่า “ไปไม่รอด”
ถ้าปลดปืนออก พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เหลืออะไรเลย!?
กองทัพที่แข็งแกร่งเกรียงไกรทั่วโลกเป็น “ทหารอาชีพ”
โลกแทบไม่มีที่ยืนให้กับ “ทหารการเมือง”
อดีตนายทหารใหญ่อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะเชื่อได้อย่างไรว่า พวกที่แห่แหนกันเข้ามาห้อมล้อมอันเนื่องมาจาก “พลังดูด” นั้น มาด้วยใจภักดิ์ไม่ได้หวังประโยชน์ตอบแทน
วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป แม้แต่โพลนิด้าที่เคยออกหน้าออกตาก็ยังเปลี่ยน
โพลชี้ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาอันดับ 1 ที่ประชาชนอยากให้ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี”
อันดับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ อันดับ 3 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอันดับ 4 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ในแง่ความนิยมต่อพรรคการเมือง อันดับ 1 ยังคงเป็น “พรรคเพื่อไทย” อันดับ 2 พลังประชารัฐ (พรรคที่ตั้งฐานที่มั่นในรัฐบาล) อันดับ 3 ประชาธิปัตย์ และอันดับ 4 อนาคตใหม่
ถ้าการเลือกตั้งมีขึ้นจริงจงอย่าได้คิดว่า แค่ “การกาบัตร”
การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยเป็นจิตวิญญาณแห่งความเสรีและซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเองและคู่แข่ง ถ้าวางแผนโกงกันตั้งแต่ในมุ้ง “การเลือกตั้ง” ก็จะเป็นเพียงแค่ “พิธีกรรม” ในการเข้าสู่อำนาจ ไม่ต่างอะไรกับการล้มล้างรัฐบาลด้วยกำลังรบและอาวุธยุทธภัณฑ์ทำสงคราม
พล.อ.ประยุทธ์ก้าวผิดมาแล้ว อย่าได้ทำในสิ่งที่ผิดอีกต่อไป!?!!