มอดไม้ใจบาป ลอบตัดเสาหอระฆังวัด ชาวบ้านรุมสาบแช่ง พระเผยถูกปล้นหนีไปจำวัดที่อื่น

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง จากนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอสว่างแดนดิน ว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน เข้าไปเสาค้ำยันหอระฆัง วัดสามัคคีท่าหลวง บ้านนาดินจี่ -บ้านหนองหมากแซว หมู่ที่ 3 ต.คำสะอาด อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นไม้พะยูง 2 ต้น ก่อนขนหลบหนีไป 2 ต้น ต่อมา พ.ต.ท.พัลลภ กลิ่นหอม สว.สส.สภ.สว่างแดนดิน นายรัฐศาสตร์ หาบสา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.สว่างแดนดิน จ.ส.อ.จรูญ แสนเพียง จ.ส.อ.สรายุธ วงษ์เมือง ชปพท.4 กรมทหารราบที่ 3 นายจำลอง สืบสม ผู้ใหญ่บ้านหนองหมากแซว หมู่ที่ 10 เดินทางเข้าตรวจสอบ พบพระภิกษุ วีรพงษ์ ธรรมคันธี อายุ 36 ปี ยืนรอให้การเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบพบ หอระฆังเป็นอาคารไม้สูง 3 เมตร มีเสาค้ำยันอาคารหอระฆัง เป็นไม้พะยูงซึ่งชาวบ้านบริจาคมา มีขนาดเส้นรอบวงของเสา ประมาณ 1.20 -1.34 เมตร 6 ต้น สภาพถูกคนร้ายใช้เลื่อยยนต์ตัดเสาด้านข้างอาคารทางทิศตะวันตก 2 ต้นโดยตัดจนติดพื้นดินและพื้นอาคารเหลือแต่ตอ มีเศษขี้เรื่อย คราบน้ำมันเกลื่อนพื้นทั้ง 2 จุด จากนั้นคนร้ายใช้เหล็กผ่าซีกแหลมความยาวใกล้เคียงกับความสูงของอาคารค้ำยันอาคารหอระฆังไม่ให้ล้ม ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนนำไม้พะยูงเคลื่อนย้ายออกบริเวณกำแพงวัด จนกำแพงแตกร้าว เนื่องจากมีประตูเข้าออกด้านหน้าจุดเดียว ขณะเกิดเหตุประตูถูกล็อคและไม่มีใครอยู่วัด

ตัดไม้พยุง11

นายจำลอง เปิดเผยว่า คาดว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกเข้ามาวัดในเวลาประมาณ 22.00น. ของวันที่ 3 พฤษาคม โดยอาศัยจังหวะที่ชาวบ้านเดินทางไปร่วมประชุมสมาคมเกี่ยวกับงบพัฒนาหมู่บ้าน และ พระวีรพงษ์ ธรรมคันธี ไม่ได้จำวัด โดยเตรียมการมาเป็นอย่างดี และลงมืออย่างรวดเร็ว โดยใช้น้ำมันชโลมเสาเพื่อป้องกันเสียงดังเวลาใช้เลื่อยยนต์ตัดเสาอาคารหอระฆัง คาดว่าคนร้ายอาจจงใจ หรือตั้งใจ ตัดให้หมด แต่พบเสาต้นหนึ่งถูกตัดไปโดยไม่มีเหล็กค้ำยัน จึงคาดว่าอาจมีชาวบ้านผ่านมา คนร้ายจึงรีบหลบหนีไปก่อนที่ชาวบ้านมาพบ

Advertisement

พระวีรพงษ์ ธรรมคันธี กล่าวว่า อาตมาจำวัดเพียงรูปเดียว พึ่เพิ่งจำวัดได้ 5 เดือน โดยวัดก่อสร้างมาแต่ปี 2484 เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็น วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา พบคนร้ายเป็นชาย 2 คน เข้ามาในวัด โดยทำทีขอนอนพักที่ศาลาวัด แต่อาตมาไม่อนุญาต ก่อนเดินทางไปกวาดลานวัด ต่อมาคนร้ายทั้ง 2 คน บุกเข้ามาจับกุมอาตมาไปมัดที่ต้นไม้หลังกุฏิหลังวัด จากนั้นรื้อค้นทรัพย์สินภายในกุฏิได้เงินสดไปจำนวนหนึ่ง พร้อมพระเครื่องและโทรศัพท์ กระทั่งเวลาผ่านมาไปอีกวัน จึงมีโยมมาพบ โดยทิ้งร่องรอยบาดแผลเชือกมัดบริเวณแขนทั้ง 2 ญาติของอาตจึงให้ไปจำวัดที่อื่นก่อน เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนเกิดเหตถุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์ มีคนมาถามซื้อเสาต้นไม้พะยูงหลายครั้ง โดยให้ราคาเกือบ 3 ล้าน แต่อาตมาแจ้งว่าซื้อขายไม่ได้เพราะเป็นของโยมส่วนรวมในหมู่บ้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สว่างแดนดิน ทำการสืบสวนข้อมูลเพื่อหาข้อมูลเบาะแสรูปพรรณสันฐาน เพื่อดำเนินการจับกุมคนร้าย เบื้องต้นยังไม่ไดข้อสรุปว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน โดยมีชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ต่างสาปแช่งโจรใจบาป พร้อมร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดเวรยามเฝ้าระวัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image