เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ท่าเรือสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นายชัยทัต ณ นคร นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน นำชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่จากชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนกลางประมาณ 10 คน เข้าตรวจสอบ ปราบปรามไกด์เถื่อนชาวจีน ที่เข้ามาแย่งอาชีพคนคนไทย โดยดักรวบตัวขณะนำคณะทัวร์ขึ้นจากเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา 3 ราย คือนาย ซู่ เหยินเทา นายเฉิน ยู่ไฉ และอีกคนเป็นหญิงมีชื่อเรียกว่า ไกด์เหมย แต่อ้างตัวว่า เป็นลูกทัวร์ไม่ได้นำเที่ยว เมื่อตรวจเอกสารในตัวพบว่า ถือบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเป็นปึกใหญ่ อาทิ วัดพระแก้ว พระที่นั่งวิมาณเมฆ ในกระเป๋าสตางค์มีธนบัตรไทยจำนวนมาก ไม่พกหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) นอกจากนี้ยังมีเอกสารของสถานที่ช็อปปิ้งแห่งหนึ่งสำหรับใช้รับค่าทิปพิเศษ เมื่อนำลูกทัวร์เข้าไปใช้บริการ จึงถูกนำตัวส่ง สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายชัยทัต กล่าวว่า อาชีพไกด์เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้นทำให้คนจีนหันมาทำธุรกิจนำเที่ยว กรุ๊ปทัวร์จีนจะมีไกด์จีนร่วมนำเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งผิดกฎหมายและถือเป็นการแย่งอาชีพคนไทย กลุ่มไกด์ไทยจึงรวมตัวร้องเรียนยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาแก้ปัญหาต่างชาติแย่งอาชีพ โดยที่ผ่านกระทรวงแรงงาน ได้ส่งชุดเฉพาะกิจแฝงตัวออกตรวจตามแหล่งท่องเที่ยวและสนามบินซึ่งเป็นจุดรับส่งลูกทัวร์ มีการจับกุมไกด์จีนดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องทำให้ลดจำนวนลงแต่ก็มีอุปสรรคบ้างที่กลุ่มไกด์ต่างด้าวและบริษัทนำเที่ยว จะมีเส้นสายคอยแจ้งข่าวล่วงหน้าทำให้รอดพ้นการจับกุมการปราบปรามจึงต้องปรับรูปแบบเปลี่ยนสถานที่ไปตามสถานการณ์ เช่นการดักจับที่ท่าเรือบริเวณที่ท่องเที่ยวจะมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตุการณ์พฤติกรรมของไกด์นำเที่ยวได้ชัดเจน เพราะจะนั่งหัวเรือและขึ้นเรือก่อน ประกอบกับกระโดดเรือหนีไม่ได้ จึงรวบตัวได้ง่ายกว่า นอกจากไกด์จีน ยังมีเวียดนาม เกาหลี รัสเซีย เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ซึ่งจะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานอาชีพมัคคุเทศน์ เนื่องจากเป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 2,000-100,000 บาท ส่วนนายจ้างที่ใช้ไกด์คนต่างด้าวทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับ 100,000 บาท ต่อการจ้างแรงงานต่างด้าว 1 คน
