| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
น.ส.วราภรณ์ จันทร์เพ็ญ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาล กรุงเทพมหานคร (สธก.) รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับการใช้บริการในช่วงเปิดเทอม ว่า สถานธนานุบาลหรือโรงรับจำนำ กทม. ได้ให้ประชาชนนำทรัพย์สินที่มีค่ามาจำนำโดยเสียดอกเบี้ยในอัตราต่ำไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ปัจจุบันเปิดให้บริการ 21 สาขา 20 เขตปกครอง อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2559 ได้จัดเตรียมเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ขณะนี้มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในการรับจำนำจำนวนมากกว่า 700 ล้านบาท ประชาชนเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ไม่มีพักเที่ยง ทั้งนี้ ได้จัดโครงการลดดอกเบี้ยช่วงเปิดเทอม สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ปกครอง โดยมีระยะเวลาให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม วงเงินจำนำต่อ 1 ราย ไม่เกิน 70,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน
น.ส.วราภรณ์กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ลูกค้ามักนำมาจำนำจะเป็นประเภททองคำร้อยละ 85 ได้แก่ ทองคำรูปพรรณ หรือทอง 96.5 เช่น สร้อยคอ สร้อยมือ กำไล แหวนที่มีรูปแบบหรือลวดลายต่างๆ ซึ่งมีน้ำหนักแตกต่างกันไป ตั้งแต่น้ำหนัก 1 สลึง 2 สลึง 1 บาท จนถึง 5 บาท 10 บาทก็มี ส่วนประเภททองเค และทองเจือก็มีเช่นกันประมาณร้อยละ 12 ส่วนที่เหลือจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า แว่นตา นาฬิกา แต่มีน้อยไม่ถึงร้อยละ 1 ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยรับจำนำนั้น สธก.ได้ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คือ เงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาทต่อเดือน ถ้ามากกว่า 5,000-15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน ส่วน ผู้ที่ต้องการใช้เงินเกินกว่า 15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด โดยเงินต้นไม่เกิน 2,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน ส่วนที่เกิน 2,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน ได้ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยนี้มาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 เป็นต้นมา
“แต่ในช่วยเปิดเทอมนี้ ทางผู้บริหาร กทม.ตระหนักถึงความจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องเตรียมเงินเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ คือ จำนำทรัพย์สินในวงเงินตั้งแต่ 1-70,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 50 สตางค์ สำหรับผู้มาจำนำในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้”น.ส.วราภรณ์กล่าว
น.ส.วราภรณ์ กล่าวอีกว่า จากภาวะเศรษฐกิจมีค่าครองชีพสูง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. จึงมีมาตรการเร่งด่วนให้การช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ประชาชนมาใช้บริการกับโรงรับจำนำ กทม. กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่อาศัยในแหล่งชุมชนแออัด เมื่อมาใช้บริการจะได้เสียดอกเบี้ยในอัตราต่ำ ที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการในวงเงิน 5,000-15,000 บาท สัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 41.89 รองลงมาคือวงเงิน 5,000 บาท มีผู้มาใช้บริการร้อยละ 29.30 อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ประสงค์ใช้เงินเพื่อนำไปลงทุนรายย่อย จะใช้วงเงินอยู่ในระดับ 50,000 บาท เพื่อนำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนในระยะสั้นๆ เช่น ค้าขายอาหาร หรือเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทั้งนี้ ข้อจำกัดทางหน่วยงาน ได้กำหนดวงเงินรับจำนำไว้สูงสุดต่อตั๋วจำนำ 1 ใบ ไม่เกิน 70,000 บาท ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินที่ใช้จำนำด้วยเช่นกัน โดยผู้จัดการและรองผู้จัดการประจำสาขานั้นจะเป็นผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เรียกตามภาษาชาวบ้านว่า ตีราคาจำนำ จะมีเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินราคาทรัพย์สินแต่ละประเภทที่ยุติธรรม ทั้งผู้จำนำกับผู้รับจำนำจะเจรจาต่อรองราคากัน จนเป็นที่ยอมรับได้
