เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือ ไฮแทป (HITAP) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา มีการให้ข้อมูลเท็จต่อสังคมเกี่ยวกับคุณภาพของเลนส์แก้วตาเทียมที่ใช้รักษาผู้ป่วยตาต้อกระจกในสิทธิบัตรทอง ทั้งนี้ ไฮแทปในฐานะหน่วยงานที่ทำวิจัยเรื่องนี้ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยบัตรทองมีปัญหาในการเข้าถึงเลนส์ชนิดใหม่ซึ่งเป็นแบบพับได้ เพราะราคาค่อนข้างสูง จึงเสนอให้ดำเนินการต่อรองราคากับบริษัทผู้ผลิต ต่อมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลในเครือข่ายบัตรทอง ต่อรองราคากับบริษัทหลายแห่ง และนำข้อมูลราคาที่ต่อรองได้ไปให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อของโรงพยาบาลใช้ประกอบการตัดสินใจในการจัดซื้อ และในการต่อรองราคาดำเนินการโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายภาคส่วน โดยมีจักษุแพทย์อาวุโส เป็นประธาน
นพ.ยศ กล่าวอีกว่า การที่ สปสช.ช่วยทำหน้าที่ต่อรองราคาแทนโรงพยาบาล ทำให้มีอำนาจในการต่อรองสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาเลนส์ตาลดลงมากกว่าครึ่ง และทำให้เลนส์ชนิดใหม่ซึ่งพับได้มีราคาถูกลงจนสามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยบัตรทองได้ หากนับรวมงบประมาณของประเทศที่ประหยัดได้จากการทำงานของ สปสช.ครั้งนี้มีมูลค่าปีละ 300 ล้านบาท หรือรวมกว่าพันล้านบาทในช่วง 5 ปี
“ความพยายามเคลื่อนไหวโจมตี สปสช.ในช่วงนี้คงไม่พ้นสร้างกระแสและต้องการกดดันการเลือกเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ เพราะกลุ่มผลประโยชน์ ต้องการเปลี่ยนแปลงการทำงานของ สปสช.เพราะช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา มักไปขัดแย้งกับผลประโยชน์ของธุรกิจยาและเครื่องมือแพทย์” นพ.ยศ กล่าว
