อากาศเย็นต่อเนื่องถึง27ม.ค. ห่วง ‘เหนือ-อีสาน’ เจอหนาว-ฝน-ลมแรง

เมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเผชิญหน้าอากาศหนาว ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า อุณหภูมิรายเขตของกรุงเทพมหานคร จากสถานีโทรมาตรกว่า 600 สถานี ของสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ตั้งแต่ เวลา 6.00 น. พื้นที่ ที่อุณหภูมิต่ำสุด คือ เขตหนองแขม 14.4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด เขตดอนเมือง 17.8 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 24 มกราคม ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาทั้งสิ้น โดยในเช้าวันจันทร์ที่ 25 มกราคมซึ่งเป็นวันแรกของสัปดาห์สำหรับการทำงานประชาชนส่วนใหญ่ที่ออกจากบ้านต่างก็ใส่เสื้อกันหนาวออกจากบ้าน เพราะนอกจากต้องเผชิญกับอากาศหนาวแล้ว บางพื้นที่ยังมีลมพัดค่อนข้างแรงอีกด้วย

นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสสนก.กล่าวว่า ปรากฏการณ์ความกดอากาศสูงที่แผ่กำลังครอบคลุมพื้นที่ประเทศไทยเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางนั้น ในส่วนของภาคกลาง หย่อมความกดอากาศสูง หรือลมหนาว จะค่อยๆอ่อนกำลังลงเรื่อยๆหลังจากวันที่ 27 มกราคมนี้

“คืนวันที่ 25 มกราคม พบว่าอุณหภูมิจะลดต่ำกว่า วันที่ 24 เล็กน้อย ในกรุงเทพฯอาจจะลดลงถึง 17 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 26 มกราคม หลังจากนั้น อุณหภูมิจะเริ่มค่อยๆสูงขึ้น ส่วนพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ความกดอากาศสูงยังคงอยู่ ยังคงหนาวเย็นต่อไป

ทั้งนี้ โดยในช่วยบ่ายแก่ๆ คือ เวลาประมาณ 15.00 น.สถานีโทรมาตร ของสสนก.วัดอุณหภูมิในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ที่ยอดตึกอาคารบางกอกไทย 22 องศาเซลเซียส อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 19.6 องศาเซลเซียส อ.เมือง จ.กำแพงเพชร 20.6 องศาเซลเซียส อ.เมือง จ.ขอนแก่น 18.1 องศาเซลเซียส อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท 17.6 องศาเซลเซียส อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ

Advertisement

16.2 องศาเซลเซียส อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 7.8 องศาเซลเซียส อ.เมือง จ.บึงกาฬ 14.2 องศาเซลเซียส อ.จุน จ.พะเยา 9.3 องศาเซลเซียส อ.แม่สาย จ.เชียงราย 8.8 องศาเซลเซียส ที่น่าห่วงมากตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ด้านฝั่งตะวันออกของภาคจะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะมีลมค่อนข้างแรงมากด้วย อยากให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมตัวรับมือกับภาวะลมแรงดังกล่าวด้วย” นายรอยล กล่าว

นายรอยล กล่าวว่า สถานการณ์อากาศหนาวมากครอบคลุมหลายพื้นที่ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จะไม่เหมือนปรากฏการณ์ความหนาวเย็น เช่นที่ผ่านมา คือ ยิ่งปรากฏว่าหนาวมากเท่าไรก็จะยิ่งแห้งแล้งมากเท่านั้น แต่ปัจจัยความหนาวที่เกิดขึ้นเวลานี้ก็คือ ความกดอากาศสูงที่มาจากประเทศจีน กับความกดอากาศต่ำที่หอบเอาความชื้นมาจากอ่าวไทย ทำให้เกิด หนาว ฝน และลม ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

สำหรับกรณี ที่ประเทศลาวมีการแชร์ภาพเกล็ดน้ำแข็งคล้ายหิมะตกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศดังกล่าว อาทิ ซำเหนือ แขวงหัวพัน เชียงขวาง ซึ่งเป็นพื้นที่อุณหภูมิติดลบอย่างน้อย 3 องศาเซลเซียส และต่อมามีการเผยแพร่ในสื่อหลายแขนงว่าเป็นปรากฏการณ์หิมะตก นายรอยล กล่าวว่า ที่ตกลงมาที่ประเทศลาว ไม่ใช่หิมะ แต่เป็นเกร็ดน้ำแข็ง หรือ sleet คือ การที่ฝนตกลงมาก่อนจะตกลงสู่พื้นดิน เจอความเย็นแทรกตัวเข้ามาทำให้น้ำฝนนั้นกลายเป็นหยดน้ำแข็งแทนที่จะตกลงมาเป็นน้ำ ขณะที่หิมะนั้น เกิดจากละอองน้ำเกิดการเกาะรวมตัวกันในชั้นบรรยากาศที่อุณหภูมิต่ำว่า 0 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ต้น คือเป็นน้ำแข็งตั้งแต่เริ่มแรก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image