เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อม นายกันยา (สงวนนามสกุล) และนางลำไพ (สงวนนามสกุล) ชาวจ.อุดรธานี พ่อและแม่ของน.ส.ภา (นามสมมุติ) เข้าพบพ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผบก.ปคม. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้าที่หลอกน.ส.ภา ว่า จะพาไปนวดแผนไทยแต่แล้วกลับพาไปค้าประเวณี โดยนำข้อความแชตทางเฟซบุ๊กระหว่างน.ส.ภา และเพื่อนที่ระบุว่าถูกหลอกไปค้าประเวณี รวมทั้งพิกัดที่น.ส.ภาอยู่ และรูปถ่ายขณะถูกทำร้ายร่างกาย รวมถึงรูปถ่ายของนายหน้าที่หลอกพาตัวไป
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางนัด (สงวนนามสกุล) อ้างว่าเป็นนายหน้าสามารถพาคนไปทำงานร้านนวดและร้านอาหารในต่างประเทศได้นั้น มาชักชวนนางลำไพ และน.ส.ภาให้ไปทำงานต่างประเทศ ก่อนที่เมื่อ 8 มีนาคมที่ผ่านมา น.ส.ภาตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่เมืองมานามา ประเทศบาห์เรน จ่ายเงินให้กับนางนัด 300,000 บาท ก่อนจะได้ตั๋วเครื่องบินไปยังประเทศบาห์เรน เมื่อผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์น.ส.ภาได้โทรศัพท์ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ว่าสบายดี ก่อนจะโอนเงิน 10,000 บาทมาให้ครอบครัว จากนั้นประมาณกลางเดือนเมษายน น.ส.ภาติดต่อกลับมาอีกครั้งพร้อมระบุว่าถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากตนไม่ยอมก็ถูกทำร้ายร่างกาย และยังมีหญิงไทยอีกกว่า 10 คนที่ถูกหลอกและบังคับให้ค้าประเวณี จึงอยากให้ครอบครัวหาทางช่วยเหลือ ครอบครัวจึงติดต่อมาทางชมรมฯเพื่อขอให้ช่วยเหลือลูกสาว จากนั้นจึงตัดสินใจนำพ่อและแม่ของน.ส.ภามาแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้า และหาทางช่วยเหลือหญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์กลับไม่พบชื่อนางนัด แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นชื่อปลอม
ด้านพ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนจะประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสถานต่อไปยังสถานทูตประเทศบาห์เรน ให้ช่วยเหลือหญิงไทยกลับมายังประเทศไทย ขณะเดียวกันจะตรวจสอบข้อความสนทนาทางโซเชียลเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดกับนายหน้า รวมทั้งตรวจสอบประวัติบุคคลที่อ้างว่าเป็นนายหน้าพาไปทำงานต่างประเทศ อย่างไรก็ตามจากการรวบรวมข้อมูลพบว่ากรณีดังกล่าวมักเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ตำรวจมีการประสานถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศในละแวกใกล้เคียงให้เป็นหูเป็นตาและสอดส่องกรณีพบการค้าประเวณีเช่นกัน
