อุทยาน-ทช. รับมือปะการังฟอกขาว ชุมพรอาการหนักสุด เกาะมะพร้าว 80%แล้ว

วันที่ 17 พฤษภาคม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน ทำให้เกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว พบว่า อุทยานแห่งชาติทางทะเลที่เกิดปะการังฟอกขาวมากที่สุด คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บริเวณเกาะมะพร้าว ถึงร้อยละ 80 เกาะง่ามน้อยและเกาะกุลา ร้อยละ 50 โดยชนิดปะการังที่พบการฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังผึ้ง และปะการังเขากวาง รองลงมาคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา บริเวณบุโหลนไม้ไผ่ บุโหลนดอนและเกาะรัง ร้อยละ 10-25 ชนิดปะการังที่พบการฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังสมอง และปะการังวงแหวน อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด บริเวณเขาแหลมหญ้า ร้อยละ 40 เกาะทะลุและเกาะกุฎี ร้อยละ 10 ชนิดปะการังที่พบการฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง บริเวณเกาะสามเส้าด้านทิศตะวันตก ร้อยละ 20 ชนิดปะการังที่พบการฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังช่องเหลี่ยมและปะการังลายดอกไม้

ด้าน น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กล่าวว่า ทช.ได้ติดตามเฝ้าระวังการเกิดปะการังฟอกขาวมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน พบปะการังฟอกขาว จำนวน 33 จุด อยู่ฝั่งอ่าวไทย 17 จุด และฝั่งอันดามัน 16 จุด มีระดับความรุนแรงของการฟอกขาวตั้งแต่ร้อยละ 10-80 แบ่งเป็นพื้นที่การพบปะการังฟอกขาวทั้ง 33 จุด จะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล 25 จุด นอกอุทยานทางทะเล 8 จุด

“จากการติดตามเฝ้าระวังการเกิดปะการังฟอกขาว พบตัวเลขการเกิดปะการังฟอกขาวที่น่าตกใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ 16 จังหวัด พบมีปะการังที่อยู่ในสภาพดี ร้อยละ 80 เพียง 2 จังหวัดเท่านั้น คือ จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดปัตตานี ส่วนอีก 3 จังหวัด สงขลา สตูลและระยอง พบปะการังมีสภาพดีในระดับร้อยละ 20-40 ของแนวปะการัง ส่วนที่เหลือ 11 จังหวัด พบปะการังอยู่ในสภาพดีไม่ถึงร้อยละ 10” อธิบดีทช.กล่าว

นายธัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการเกิดปะการังฟอกขาวนั้น สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ สร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ผู้ใช้ประโยชน์จากแนวปะการัง เพื่อให้ทราบสถานการณ์ของแนวปะการังฟอกขาว ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันฟื้นฟูเพื่อลดภัยคุกคามต่อแนวปะการัง โดยในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ ได้จัดทำประกาศเพื่อแจ้งเตือนผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมและนันทนาการในบริเวณแนวปะการัง เป็นการลดผลกระทบที่จะส่งผลให้แนวปะการังเกิดความเสียหาย อีกทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯดำเนินการเข้มงวด กวดขัน ไม่ให้เรืออวนลาก เรืออวนรุน เข้ามาดำเนินการทำการประมงในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการจัดให้มีที่กักเก็บของเสียบนเรือ และห้ามเรือที่ไม่มีที่กักเก็บของเสียเข้าในอุทยานแห่งชาติเด็ดขาด ทั้งนี้จะได้ดำเนินการประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณจุดดำน้ำทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ที่มีการสำรวจพบการเกิดปะการังฟอกขาวโดยเร็วที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวงดให้อาหารปลา รวมทั้งดักจับสัตว์น้ำทุกชนิดในแนวปะการัง เพื่อรักษาความสมดุลระบบนิเวศทางทะเล เพื่อลดการเกิดปะการังฟอกขาวอีกทางหนึ่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image