เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า ทันทีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 24/2559 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการ ให้ พล.ต.อ. ชัยยะ ศิริอําพันธ์กุล พ้นจากตําแหน่ง จเรตํารวจแห่งชาติ (จตช.)และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนดํารงตําแหน่งเลขาธิการปปง. นั้นทำให้มีการจับตามองถึงผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง จตช. แทนที่ พล.ต.อ.ชัยยะ ซึ่งตามกฎที่ใช้ในปัจจุบัน ยังคงกำหนดให้การพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือเทียบเท่า ขึ้นไป เป็นไปตามลำดับอาวุโส จึงมีการคาดการณ์ว่าในเร็วๆนี้จะมีการแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่ง จตช. ซึ่งเป็นตำแหน่งหลัก มีสิทธิในการเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. แทนตำแหน่ง พล.ต.อ.ชัยยะ แน่นอน
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า มีการจับตามองไปที่ พล.ต.อ.เจษฎา อินทรสถิตย์ ที่ปรึกษา(สบ.10) นักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 30 ที่มีอาวุโสสูงสุด แต่ทว่าจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2559 นี้แล้ว และพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา(สบ.10) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 33 อาวุโสลำดับที่ 2 เกษียณอายุราชการในปี 2561 โดยมีการมองว่า เป็นไปได้ที่อาจเสนอชื่อ พล.ต.อ.เดชณรงค์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง จตช. เนื่องจากยังมีอายุราชการอีกยาวและยังเป็นที่รับรู้ในแวดวงข้าราชการตำรวจว่าเป็นนายตำรวจที่มีความสนิทสนมกับพล.อ.ประยุทธ์ และได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรีในดำรงตำแหน่งสำคัญหลายครั้ง ทั้งนี้หากเสนอชื่อ พล.ต.อ.เดชณรงค์ จริงก็ต้องมีการเว้นกฎเกณฑ์ ซึ่งสามารถทำได้ โดยก่อนหน้านี้ ในก.ตร.ได้อนุมัติให้ พล.ต.อ.เดชณรงค์ เป็น รองประธานอนุก.ตร.ด้านกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ยังมีการจับตามองว่าเมื่อแต่งตั้งจตช.ใหม่ก็จะนำมาสู่การแต่งตั้งระดับอื่นๆด้วย ทั้งนี้ระดับผู้ช่วยผบ.ตร.ที่จะต้องขยับขึ้นเป็นที่ปรึกษา(สบ10) นั้นมีการจับตามอง พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. นรต.33 อาวุโสอันดับ 1
