ศาลตีกลับสำนวนขัง ‘เสี่ยเมาซิ่ง’ ตัดข้อหาเจตนา-พยายามฆ่า ลูกสาวรอง ผกก.ดีขึ้นแล้ว ครอบครัวเสี่ยสำนึก รับเลี้ยงดูลูก 2คน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 เมษายน ร.ต.อ.พิทักษ์ พูลพุทธา รอง สว.(สอบสวน) สน.ศาลาแดง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัว นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับ หลังขับรถเบนซ์ รุ่นอี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 กองบังคับการกองปราบปราม ผู้ขับขี่รถคู่กรณีเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ส่วน นางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาบาดเจ็บสาหัสไปเสียชีวิตที่ รพ.ราชพิพัฒน์ และ น.ส.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี บุตรสาวได้รับบาดเจ็บมีอาการเลือดออกสมองถูกนำส่ง รพ.วิชัยเวช โดยตำรวจคุมตัวนายสมชายไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ตามข้อหา  5 ฐานความผิดคือ 1.ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 5.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชายถูกนำตัวขึ้นรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ผ 1231 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่บริเวณใต้ถุนศาล เนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายสมชายมีอาการปวดที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เพราะระบมหลังเกิดอุบัติเหตุ จึงขอให้ทางพนักงานสอบสวนพาตัวไปพบแพทย์ตามสิทธิของผู้ต้องหา เมื่อเดินทางไปพบแพทย์แล้วจึงเดินทางมาที่ศาลตามนัด โดยมีกำลังฝ่ายสืบสวนนั่งคุมตัวมาด้วยกันตลอด โดยนายสมชาย  เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ เป็นสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ และใส่รองเท้าหนังสีดำ เดินกะเผลกลงจากรถอย่างทุลักทุเล ก่อนเข้าไปในบริเวณของศาล

ขณะที่ นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายของ นายสมชาย ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาเตรียมยื่นขอประกันตัวน้องชาย พร้อมชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ตนต้องขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้นและทางครอบครัวพวกเรา ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นและขอยอมรับผิดชอบทุกอย่าง ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ เราเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวผู้ตาย ทันทีหลังจากทราบข่าว และพยายามหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุดที่เกี่ยวกับการรักษาอาการทางด้านสมอง ก่อนจะนำตัวบุตรสาวของผู้เสียชีวิตไปรักษาต่อ ที่ รพ.กรุงเทพ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง จำนวนหลายล้านบาทก็ตาม แต่ขณะนี้ทราบว่า อาการน้องดีขึ้นไม่ต้องผ่าตัดสมองแล้ว ตนและครอบครัวยอมรับทุกอย่าง และทราบว่าทาง พ.ต.ท.จตุพร ผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครับเราจะรับผิดชอบทุกอย่าง ดูแลเรื่องการศึกษา ของลูกๆ ซึ่งเป็นบุตรสาวทั้งสองคน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป   จะรับน้องทั้ง 2 คน ให้มาเป็นหลานของตน และหวังว่าศาลจะเมตตา และมาคุยกัน ว่าจะดำเนินการอย่างไร

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ต้องนำตัว นายสมชาย กลับสน.ศาลาแดง เพื่อทำการสอบปากคำทำคดีใหม่ เนื่องจากศาลพิจารณาแล้ว ไม่สามารถรับฟ้องในคดี ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะนำมาใช้ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ โดยศาลให้ทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนแจ้งข้อหา แก่นายสมชาย เพียง 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ตามที่นายสมชาย ยอมรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนเท่านั้น

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image