| เผยแพร่ |
|---|
จากปัญหาทุนจีนและต่างชาติบางส่วนเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์กลับประเทศ สร้างปัญหาให้กับนักธุรกิจภูเก็ต และทำให้ประเทศสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก จนหลายฝ่ายเรียกร้องให้หลายหน่วยงานภาครัฐออกมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา
นายนิมิตร ฆังคะจิตร หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางนั้น ว่าทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบ 51 รายเป้าหมาย ใน 6 ประเภทเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นผลปรากฏว่า มีนิติบุคคล 2 รายที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายนอมินี ซึ่งผู้ถือหุ้นคนไทยยอมรับว่าไม่ได้ลงเงินจริง ได้แจ้งให้นำส่งเอกสารเชิงลึกมาตรวจสอบก่อนส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนอีก 49 รายนั้น ไม่พบข้อสังเกต 8 ราย 1 รายจดทะเบียนเลิก และที่ไม่พบกรรมการผู้ถือหุ้น 40 ราย ได้ส่งให้กรมสรรพากรดำเนินการต่อ
ผ่านมาถึงขณะนี้การดำเนินการยังคงต่อเนื่อง และเข้มข้นขึ้น เมื่อนายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดด้านเศรษฐกิจดูแล รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัด พัฒนาธุรกิจการค้า ท่องเที่ยวและกีฬา สรรพากร จัดหางาน ที่ดิน รวบรวมข้อมูล และเตรียมมาตรการตรวจสอบแบบบูรณาการซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเป้าหมาย
โดยสำนักงานพัฒนธุรกิจการค้าจะมีข้อมูลสำคัญของผู้จดทะเบียนนิติบุคลจัดตั้งใหม่และเก่าซึ่งมีการคัดกรองว่าเข้าหลักเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นกลุ่มนิติบุคลที่มีกรรมการผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติ ตั้งแต่ 1-49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเข้าลักษณะต้องสงสัยเมื่อ 1.กลุ่มนิติบุคคลที่มีการแก้ไขข้อบังคับ และ 2.ในกลุ่มที่มีการเปลี่ยนตัวกรรมการผู้ถือหุ้น เช่นจากตอนแรกขอจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มีคนไทยเป็นกรรมการทั้งหมด แต่พอผ่านไป มีการขอแก้ไขให้ต่างชาติเข้ามาแทน เป็นต้น ซึ่ง “ล่าสุดจำแนกเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงทั้งสองกลุ่มได้ดังนี้ 1.กลุ่มนิติบุคคลที่มีการแก้ไขข้อบังคับ เข้าข่าย แล้ว 5 ราย และ 2.ในกลุ่มที่มีการเปลี่ยนตัวกรรมการผู้ถือหุ้น พบว่ามีสูงถึง 321 รวม 326 ราย ซึ่งจะต้องนำรายชื่อดังกล่าวเข้าที่ประชุมจังหวัดทำการตรวจสอบเชิงลึกตามลำดับขึ้นตอนจนได้ข้อสรุป”
สำหรับจำนวนผู้จดทะเบียนนิติบุคคลของจังหวัดภูเก็ต ทั้งประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด ที่ยังไม่เลิกกิจการปัจจุบันอยู่ที่ 18,978 ราย ส่วนใหญ่เป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ รองลงมาเป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ในจำนวนนี้มีจำนวน 7,000 ราย ที่มีชาวต่างชาติถือหุ้น ตั้งแต่ 1-49 เปอร์เซ็นต์
ส่วนตัวเลขสรุปการขอจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่ตั้งแต่ปี 2556-2558 พบว่า ในปี 2556 มีบริษัทขอจดใหม่ 1,529 ราย ห้างหุ้นส่วนฯจดใหม่ 244 ราย ปี 2557 มีบริษัทขอจดใหม่ 1,713 ราย ห้างหุ้นส่วนฯจดใหม่ 241 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2556 จำนวน 181 ราย) ในปี 2558 มีบริษัทขอจดใหม่ 1,493 ราย ห้างหุ้นส่วนฯจดใหม่ 242 ราย (ลดลงจากปี 2557 จำนวน 219 ราย) ส่วนในปี 2559 นี้ยังไม่สามารถคาดเดาว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง เนื่องจากปัจจัยบวกลบหลายด้าน นายนิมิตรกล่าว
