“พญาเสือ”บุกเสม็ดยึด 8 รีสอร์ต แจ้งความ”ธนารักษ์”ให้เช่าที่ไม่ปรึกษา

วันที่ 24 พฤษภาคม หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ ชุดพญาเสือ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือ ลงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 และฝ่ายปกครอง จ.ระยอง สนธิกำลังกว่า 150 นาย เพื่อเข้าตรวจยึดพื้นที่คืนจากผู้เช่าที่ราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ ที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด รวม 15 แปลง เนื้อที่ 33-2-50 ไร่ และสะพานท่าเทียบเรืออีก 10 ท่าเทียบเรือ รอบเกาะ

นายธัญญา กล่าวว่า เดิมที่ดินแปลงดังกล่าวถ้าเทียบจากภาพถ่ายดาวเทียม เมื่อปี 2545 พบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกยังมีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันพบว่าผู้กระทำความผิดมีเจตนาจงใจบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติโดยใช้วิธีเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ และบุกรุกเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ตรวจยึดที่ดินคืนได้ 15 แปลง ได้แก่ แพนโดร่า รีสอร์ต 2 แปลง (เนื้อที่ 0-2-53ไร่,1-1-14ไร่) บ้านชมเสม็ด รีสอร์ต 1 แปลง เนื้อที่ 1-3-94 ไร่ เสม็ดคลับ รีสอร์ต2 แปลง (เนื้อที่ 0-0-08ไร่,0-0-41ไร่) เสม็ดคลิฟ รีสอร์ต 1 แปลง เนื้อที่ 2-0-19 ไร่ นางเติบ สังข์สุวรรณ 2 แปลง (เนื้อที่ 1-1-88ไร่,1-0-69ไร่) เสม็ดทรี รีสอร์ต 1 แปลง เนื้อที่ 3-2-94 ไร่ เสม็ดรีสอร์ต 2 แปลง (เนื้อที่ 1-2-83ไร่,0-1-42ไร่) และไม่มีชื่ออีก 4 แปลง (เนื้อที่ 0-1-01ไร่,7-0-61 ไร่,0-0-71 ไร่,11-2-07ไร่) ซึ่งทั้งหมดนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ 2535 หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางกรมอุทยานแห่งชาติฯจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และหลังจากนี้จะได้ทำการฟื้นฟูพื้นที่โดยการปลูกป่าให้ฟื้นคืนสภาพเดิมต่อไป

“หลังจากนี้เราก็จะเปิดโอกาสให้ทั้งหมดได้ยื่นเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดิน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ปัญหาที่เราเห็นชัดๆในตอนนี้ก็คือ กรมธนารักษ์ อนุญาตให้ชาวบ้านเช่าที่ทำกิน โดยไม่แจ้งกรมอุทยานฯเลย แม้ว่าที่ดินทั้งหมดจะเป็นของกรมธนารักษ์มาก่อน แต่หลังจากปี 2524 ที่มีการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กรมธนารักษ์จะดำเนินการใดๆในพื้นที่ จะต้องหารือกรมอุทยานฯก่อน แต่พบว่าที่ผ่านมากรมธนารักษ์ไม่ได้แจ้งเรื่องใดๆกับกรมอุทยานฯเลยเก็บค่าเช่าอย่างเดียว ซึ่งก็น่าเห็นใจชาวบ้านที่เข้ามาเช่าที่กรมธนารักษ์เหมือนกันที่ไม่รู้กติกาข้อปฏิบัติเหล่านี้”นายธัญญา กล่าว

อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า สำหรับท่าเรือทั้ง 10 แห่งบนเกาะ ก็พบว่ามีการสร้างอย่างไม่ถูกต้อง จะต้องรื้อทิ้งทั้งหมด โดยหลังจากนี้กรมอุทยานฯจะเปิดโอกาสให้ผู้สร้างเข้ามาแสดงตัวเพื่อคัดค้าน แต่ตามรูปกาลแล้ว เข้าใจว่าคงไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของแน่ ซึ่งอธิบดีสามารถใช้มาตรา 22 เข้าไปรื้อถอนได้ทันที

Advertisement

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ความจริงแล้วรู้สึกเห็นใจกลุ่มผู้ประกอบการ ที่เข้ามาเช่าที่ดินของกรมธนารักษ์ โดยที่กรมธนารักษ์ไม่ได้แจ้งหารือกรมอุทยานฯเลย ในบรรดาที่ดินที่ถูกปล่อยให้เช่าเหล่านี้ มีจำนวนมากที่หลักหมุดคลาดเคลื่อน กินที่เข้าไปในที่อุทยานฯมากกว่า 500 เมตร ชาวบ้านและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีเจตนาที่จะบุกรุก แต่ทุกคนเข้าใจว่า เป็นที่ของกรมธนารักษ์ ก็จ่ายค่าเช่ากรมธนารักษ์ไป กรมธนารักษ์ก็เก็บค่าเช่าอย่างเดียว โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง และไม่เคยแจ้งกรมอุทยานฯเลย วันนี้ กรมอุทยานฯจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกรมธนารักษ์ฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานฯและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 คาดว่าจะรวบรวมหลักฐานแจ้งความได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image