พยาบาล โร่แจ้งความ ถูกโจรแสบแฮ็กเฟซบุ๊ก แชทยืมเงินนับล้านบาท

พยาบาล โร่แจ้งความ ถูกโจรแสบแฮ็กเฟซบุ๊ก แชทยืมเงินนับล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ สภ.เมืองนครพนม นางสาวอรรจจิมา ศรีชนม์ อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าตึกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ และ หัวหน้าศูนย์ดูแลแผล (Wound Center) โรงพยาบาลนครพนม นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สิทธิชัย จันโทศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เพื่อเอาผิดกับแก๊งมิจฉาชีพที่แฮ็กเฟซบุ๊ก และไลน์ อ้างเป็นตน และหลานสาว ชื่อเฟซ SUTIMA KANANIL ก่อนทักไปหลอกยืมเงินเพื่อนและคนรู้จักในเฟช:บุ๊ก มีผู้หลงเชื่อมากถึง 38 ราย และมีการโอนเงินเข้าบัญชี ของเพื่อนร่วมแก๊ง รายละ 10,000 – 20,000 บาท รวมแล้วมีค่าความเสียหาย ร่วม 1 ล้านบาท และผู้เสียหายเองยังถูก แก๊งมิจฉาชีพ เข้าไปแฮกเฟซบุ๊กเป็นหลานสาว ที่อยู่ต่างจังหวัด ทักมายืมเงิน โดยอ้างว่า จำเป็นใช้เงินด่วนในช่วงเวลาแค่ชั่วโมงเดียว

น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์

น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์ อายุ 53 ปี กล่าวว่า ตนหลงเชื่อโอนเงินให้หลานสาว ถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นเงิน 4,000 บาท หมายเลขที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต ชื่อบัญชี น.ส.นูรี งานแข็ง แต่ไม่ได้แปลกใจ และไม่ได้สอบถาม เพราะยอดเงินไม่มาก จากนั้นได้ทักมาอีกว่า จำเป็นเงินไม่พอ มีความจำเป็นเร่งด่วน หลงเชื่อโอนไปอีก 2 ครั้ง จำนวน 6,000 บาท และ 10,000 บาท แต่เปลี่ยนให้โอนบัญชีธนาคาร ธกส. สาขาภูเก็ต มีชื่อนายดุสิต พ่วงบูรณ์ เป็นเจ้าของบัญชี รวม เป็นเงินทั้งหมด 20,000 บาท โดยที่ไม่แปลกใจเรื่องบัญชีคิดว่า เป็นของเพื่อน

กระทั่งภายภายหลัง มารู้ว่าถูกมิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊กแฮกไลน์ เนื่องจากมี น.ส.นภัทร อินทร์ติยะ อายุ 47 ปี พยาบาลวิสัญญี รพ.นครพนม เพื่อนที่ทำงานเป็นพยาบาลด้วยกัน ได้ขับรถมาหาตนที่โรงพยาลนครพนม เพราะสงสัย และต้องต้องการสอบถามว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรถึงต้องใช้เงิน เพราะมีการทักเฟซไปยืมเงินของเพื่อนที่ทำงาน ก่อนมีการนำไลน์การสนทนาและสลิปการโอนให้ตนดู พบว่าตนขอยืมเงิน 3 ครั้งรวมเป็นเงิน 20,000 บาท และเมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามหลานสาวที่ใช้ชื่อไลน์ว่า SUTIMA KANANIL จึงรู้ว่าถูกแฮ็กเพซบุ๊กและไลน์ด้วยกันทั้งคู่

Advertisement

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบหลักฐาน ยังพบว่า มีการแอบอ้างทักไลน์ขอยืมเงินเพื่อนวิชาชีพพยาบาลด้วยกัน ที่เคยติดต่อทางเฟซบุ๊ก ที่อยู่ต่างจังหวัดรวมถึง 38 ราย รวมยอดเงินทั้งหมด เกือบ 1 ล้านบาท ที่สำคัญเรื่องน่าเศร้าที่สุด มีบางรายที่หลงเชื่อโอนเงินให้ไป คือ น.ส.พิมพ์ใจ ดีวงศ์ อายุ 46 ปี เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ได้โอนเงินจำนวน 34,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เตรียมไว้จะใช้เป็นค่ารักษาพ่อป่วยโรคไต กำลังจะนำพ่อไปรักษาที่ รพ.อุดรธานี ในไม่กี่วัน แต่มาถูกมิจฉาชีพใช้ไลน์ตนขอยืมเงินไป หลงเชื่อเพราะ บอกว่าจะคืนไม่เกิน 17.00 น. ของวันเดียวกัน หลังทราบว่าถูกหลอก ผู้เสียหายถึงขั้นเป็นลมพับ

น.ส.อรรจจิมา เผยอีกว่า หลังทราบข่าวว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊ก ยังได้ทราบข้อมูล จาก นพ.พิพัฒน์ ชัยสุนทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ซึ่งเคยอยู่ รพ.นครพนม มาก่อน ปัจจุบันย้ายไปอยู่ รพ.มุกดาหาร ได้มีการทักไลน์ เพื่อขอยืมเงินหลายแสนบาท แต่โชคดีไม่หลงกล เพราะการทักไลน์มีพิรุธ มีคำพูดที่ก้าวร้าว แปลกใจ จึงไม่เชื่อว่าเป็นคนที่คุยด้วย ตัดสินใจโทรศัพท์สอบถามจนรู้ความจริง

เบื้องต้นทางด้าน ร.ต.อ.สิทธิชัย จันโทศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้เร่งสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ประสานชุดสืบสวน เร่งตรวจสอบแกะรอย และประสานตรวจสอบกับทางธนาคารปลายทาง เร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินเข้าไป 2 บัญชี คือ หมายเลขที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต ชื่อบัญชี น.ส.นูรี งานแข็ง และ บัญชีธนาคาร ธกส. สาขาภูเก็ต มีชื่อนายดุสิต พ่วงบูรณ์ เป็นเจ้าของบัญชี โดยจะมีการออกหมายรียกบุคคลเกี่ยวข้องมาสอบสวน หากพบการกระทำผิดเชื่อมโยงจะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที

Advertisement

หรือหากไม่มาตามหมายเรียกจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับต่อไป พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ อย่าหลงเชื่อหากมีการยืมเงินทางเฟซบุ๊กทางไลน์ ควรติดต่อสอบถาม ยืนยันตัวตนให้ชัดเจน ป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาส เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เสียหายลักษณะนี้ จำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image