ใครมีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ จะถูกคุกคามจากเครือข่ายอำนาจ และจะกลายเป็นบุคคล “ต้องห้ามเกิด”
ทัศนคติแบบนี้ยังมีอยู่ได้อย่างไร
ทุกครั้งที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือ คสช. มักจะได้ยินตัวเป้งหรือลิ่วล้อออกมา
สวนกลับในทันทีว่าให้อยู่ในกติกา ให้เคารพกฎหมาย อย่าก่อความวุ่นวาย
เริ่มตั้งแต่ ยึดอำนาจบริหารประเทศมาด้วยปืน จัดตั้งองค์กรทางการเมืองที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับพลเมืองเป็น เรียกกันโก้ๆ ว่า “แม่น้ำ 5 สาย” ให้กำเนิด “รัฐธรรมนูญ” เขียนกติกาเลือกตั้ง รวมไปถึงช่องทางการได้มาซึ่งอำนาจรัฐกันใหม่
สุดท้ายเมื่อผลเลือกตั้งออกมาก็ยังแพ้ !
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กน่าสนใจอย่างยิ่งว่า “คสช.” เป็นผู้คัดเลือกสมาชิกวุฒิสมาชิก (ส.ว.) 250 คน มาด้วยมือ มีหรือจะไม่สำนึกและตอบแทนบุญคุณ เช่นเดียวกับ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา ก็ตอบแทนบุญคุณประชาชน
“คสช.” แต่งตั้ง “ส.ว.” แล้วให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
“หัวหน้า คสช.” เลือก “ส.ว.” แล้ว “หัวหน้า คสช.” ก็เป็น 1 ในแคนดิเดต ชิงเป็น “นายกรัฐมนตรี”
ประเด็นอยู่ที่ ถ้า “พฤติการณ์” แบบเดียวกันนี้กระทำโดย นายทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคเพื่อไทย สังคมไทยยังจะทนกับการถูกข่มขืนใจหรือไม่
อย่าได้เชื่อคำโฆษณากล่าวอ้างหรือวาทกรรมของนักจุดชนวนคนใด
ลองพิจารณาที่ พ.ต.อ.ทวี ตั้ง “โจทย์” ให้ขบคิดด้วยสติสัมปชัญญะและใจที่
เป็นกลาง
“รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 114 ว่า ส.ส.หรือ ส.ว. ซึ่งเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยจะต้องไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใดๆ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์”
ความจริงที่ปรากฏคือ “ส.ว.” ชุดนี้ ส่วนใหญ่มาจากคนที่เคยถูกแต่งตั้งจาก คสช.ให้ทำหน้าที่ต่างๆ มาก่อน บ้างเป็นอดีตนายทหารในบังคับบัญชาของหัวหน้า คสช. บ้างเป็นรัฐมนตรี บ้างเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.)
ถึงแม้จะเป็น “สิ่งต้องห้าม” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ในเรื่องหลักการ “โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แต่ก็ดูเหมือนว่า คสช.จะเดินหน้า “ชงเองกินเอง” อย่างไม่เกรงใจใคร
จะว่าไปแล้ว ในระบอบประชาธิปไตย การเป็นฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องของการผลัดกันทำหน้าที่ ตามวาระกำหนด ใครจะไปใครจะมาไม่ใช่ปัญหา
ที่ควรจะเป็นปัญหาก็คือ “วิธี” ได้มาซึ่งอำนาจนั้น ด้วยสุจริตหรือฉ้อฉลด้วยสารพัดกลโกง !?!!!