ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ได้เกิดปรากฏการณ์ตัดพ้อต่อว่า ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มหมออนามัยและสหวิชาชีพต่างๆ ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คือ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และจ.สงขลา โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร สธ.ที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรสาธารณสุขไม่เท่าเทียม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ลงนามคำสั่งเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2544 (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2559 โดยเป็นค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยใน 4 จังหวัดดังกล่าว ให้แก่ 4 วิชาชีพ คือ แพทย์และทันตแพทย์ อัตรา 10,000 บาทต่อเดือน เภสัชกร อัตรา 5,000 บาทต่อเดือน และพยาบาลวิชาชีพอัตรา 1,000 บาทต่อเดือน กลายเป็นว่าสหวิชาชีพอื่นๆ ไม่พอใจ และมองว่าสธ. ให้ความสำคัญแค่ 4 วิชาชีพ แม้ล่าสุด ปลัดสธ.จะออกมาชี้แจงว่าค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นเรื่องเดิมที่ทำกันมาทุกปีอยู่แล้วนั้น
ล่าสุดสถานการณ์ยิ่งคุกรุ่น เนื่องจากตามเพจเฟซบุ๊กกลุ่มหมออนามัยและสหวิชาชีพ อาทิ เพจ “ชมรมนักวิชาการสาธารณสุข(ประเทศไทย)” เพจ”หมออนามัยขี้mouth” เพจ”ชมรม ผอ.รพ.สต.” ได้มีการเชิญชวนให้สหวิชาชีพอื่นๆ อาทิ นักวิชาการสาธารณสุข นักกายภาพบำบัด นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีการแพทย์ ฯลฯ ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยนายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Rizkee Sara” ว่า จากความไม่เป็นธรรมดังกล่าว ชมรมผอ.รพ.สต.ชายแดนใต้และชมรมเจ้าพนักงานสาธารณสุข(จพ.) ป.ตรีชายแดนใต้ จะยื่นหนังสือเพื่อทวงถามติดตามทั้งสองประเด็นในช่วงปลายเดือนนี้ และระหว่างนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องหมออนามัยและสหวิชาชีพชายแดนใต้ ดังนี้ 1.ส่งภาพการทำงานตามนโยบายกระทรวง ท่ามกลางความยากลำบาก ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ 2.ภาพสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดกับหมออนามัยและสหวิชาชีพต่างๆ ฯลฯ เพื่อสะท้อนความยากลำบากของหมออนามัยและสหวิชาชีพชายแดนใต้ และส่งสัญญาณให้ผู้บริหารรับรู้รับทราบ และดำเนินการแก้ไขความไม่เป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น” ปรากฏว่าหมออนามัยและสหวิชาชีพภาคใต้ส่งภาพความยากลำบากในการทำงานมาจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายริซกี กล่าวถึงคำสั่งเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษเฉพาะ 4 จังหวัดภาคใต้ให้แก่ 4 วิชาชีพ ว่า แม้จะเป็นเรื่องเดิมที่มีการเบิกจ่ายให้ทุกปี โดยทำเป็นหนังสือเวียน แต่ครั้งนี้ ปลัด สธ.ลงนามเป็นคำสั่งพิเศษ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการเบิกจ่ายนั้น อย่างไรก็ตาม นักวิชาการสาธารณสุขและสหวิชาชีพก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้บริหารสธ.ให้ความสำคัญกับ 4 วิชาชีพ โดยเฉพาะแพทย์ เพราะไม่ว่าค่าตอบแทน หรืออะไรก็ตาม แพทย์จะได้มากกว่าวิชาชีพอื่น แม้กระทั่งพยาบาลก็เห็นชัดว่าได้เพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่แพทย์ได้ถึง 10,000 บาท เนื่องจากเพราะเรียนมายากมามากกว่าหรืออย่างไร แต่ข้อเท็จจริง พยาบาล รวมทั้งสหวิชาชีพมีภาระงานมาก แทบไม่ได้หยุดพัก ยิ่งในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ยิ่งประสบปัญหา โดยเฉพาะภาวะเสี่ยงภัยต่างๆ ทั้งระเบิด หรือแม้แต่อุบัติเหตุที่กลุ่มหมออนามัย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลต้องประสบเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากต้องเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ลงพื้นที่ไปทำงานกับชาวบ้าน จึงไม่เข้าใจว่าหากมีค่าตอบแทนตรงนี้ออกมา ทำไมไม่นึกถึงวิชาชีพอื่นๆ ด้วย รวมทั้งค่าตอบแทนใน 4 วิชาชีพก็สะท้อนเห็นชัดว่า ห่างกันมากเกินไป อย่างพยาบาลห่างจากแพทย์มหาศาล ซึ่งทราบว่ากลุ่มพยาบาลภาคใต้อยู่ระหว่างล่ารายชื่อเพื่อทวงความเป็นธรรมแก่ สธ.เช่นกัน
“จากความไม่เป็นธรรมดังกล่าวทางชมรม ผอ.รพ.สต.ชายแดนใต้ และชมรม จพ.ป.ตรีชายแดนใต้ รวมทั้งเครือข่ายนักวิชาการ และสหวิชาชีพต่างๆ จะไปยังกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้บริหาร สธ. เรียกร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีนี้ คาดว่าจะไปยื่นหนังสือภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้” นายริซกี กล่าว
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ ยินดีรับฟังข้อเสนอต่างๆ แต่ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า ค่าตอบแทนมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ทางชมรมออกมาเรียกร้องนั้น เป็นในส่วนค่าตอบแทนของพื้นที่ชายแดนใต้ พื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ เนื่องจากเดิมทีวิชาชีพที่ให้ไปนั้นขาดแคลน เพราะไม่อยากไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย จึงมีค่าตอบแทนพิเศษให้ และให้มานานแล้วทุกๆ ปี ซึ่งการจะไปลดไปเพิ่มเงิน อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจได้ ส่วนที่ออกมาเรียกร้องว่าไม่มีวิชาชีพอื่นๆ นั้น กรณีนี้สธ.กำลังปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนฉบับใหม่อยู่ ซึ่งจะทำทั้งประเทศ ดังนั้น ขอให้รอฉบับแก้ไขภาพรวมจะดีกว่าหรือไม่
