ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ประจักษ์แจ้งแก่ใจกันแล้วหรือไม่ว่า “การปฏิรูป” ที่อวดอ้างนั้นแท้จริงแล้ว คือการสถาปนากับสร้างกติกาเพื่อรักษา “อำนาจ”
การปฏิรูปเป็นภาพลวงตาทันทีที่คนกันเองกล่าวต่อสาธารณะว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบเพื่อพวกเรา”
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้มี 250 ส.ว. “เพื่อพวกเรา” !
ขณะที่กำลังเคว้งคว้างกับการจัดตั้งรัฐบาล บางคนในพรรคพลังประชารัฐกับ คสช.ก็เลยฝันที่จะยืม “250 มือ” จาก ส.ว. ที่แต่งตั้งโดย “หัวหน้า คสช.”
เพื่อให้โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก
แบบนี้เรียกว่า ปฏิรูป?
การเลือกตั้งเป็นการแข่งขันทางการเมือง มีแพ้ มีชนะ
เลือกตั้งเสร็จแล้วพรรคการเมืองกับนักการเมืองฝ่ายหนึ่งก็ต้องเป็น “ฝ่ายบริหาร” กับอีกฝ่ายหนึ่งเป็น “ฝ่ายตรวจสอบ” หรือฝ่ายค้าน
จึงมีฝ่ายที่สมหวัง กับ ไม่สมหวัง
แต่การแพ้หรือชนะ การสมหวังกับไม่สมหวังในระบอบนี้ มี “วาระ” ที่ชัดเจนแน่นอน คือ 4 ปีเป็นอย่างมาก
ไม่มีใครดื้อด้านอยู่เกินกำหนดได้
“การอยู่นาน” ไม่ว่าในระบอบใดจะทำให้ผู้คนเบื่อหน่าย
จึงไม่แปลกที่แม้แต่ “นิด้าโพล” แท้ๆ เมื่อสำรวจออกมาล่าสุดยังว่า ผู้คนทั่วประเทศดีใจ ที่ “คสช.” จะพ้นหน้าที่
ยังถึงกับต่อท้ายให้ด้วยว่า “น่าจะไปตั้งนานแล้ว” !
5 ปี คสช. จะคุยโวโอ้อวดอะไรก็ว่าไป แต่การไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักหยุดของ “ประยุทธ์” และคณะจะทำให้ทุกสิ่งที่เคยคุยเอาไว้หมดความหมาย
พวกคุณคิดและวางแผนล่วงหน้า เฉกเช่น การยุทธของสงคราม
เพียงแต่นี่มิใช่การบดขยี้อริราชศัตรู
การยุทธนี้จึงง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ!
ใช้กำลังรบและกำลังอาวุธบดขยี้พรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีเพียงมือเปล่า
ใช้เงินที่มาจากภาษีประชาชนเอาไปจ่ายเป็น “ค่าจ้าง” เลี้ยงดูพรรคพวกบริวารที่ร่วมกันเขียนบทการแสดง เขียนกฎเขียนกติกาเพื่อ “สืบทอด” และ “รักษา” เอาไว้ซึ่งอำนาจ
ไม่มีค่านิยมใหม่ๆ อะไรเกิดขึ้นเลย
ไม่มีอุปนิสัยดีๆ และตัวแบบดีๆ ที่คนรุ่นหลังจะศรัทธาและจดจำ
จะมีก็แต่ข่าวคราวเลวระยำ กินซ้ำกินซ้อน ผลประโยชน์ทับซ้อน เกื้อกูลกันแต่ในแวดวงเครือข่ายไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตระกูล
มีการปฏิรูปอะไรที่เป็นแก่นสารบ้าง !?!!