การเลือกตั้งในสนามภาคใต้กับสนาม กทม.ครั้งที่ผ่านมา เทียบระหว่าง “พรรคพลังประชารัฐ” กับ “พรรคประชาธิปัตย์” แล้ว กล่าวได้ว่า “ประชาธิปัตย์” โดนน่วมทั้งหมัดเท้าเข่าศอก
พ่ายยับ แพ้น็อก นับสิบยังไม่ฟื้น !
หลังจบเกม ผู้ชมคาดการณ์ต่างๆ นานา ว่าจากนี้ไป “ประชาธิปัตย์” จะยอมกลืนเลือดเก็บกดความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วค่อยเอาคืนด้วยการมุ่งมั่นฟื้นฟูพรรค
เส้นทางประชาธิปไตยยังมีอนาคตยาวไกล !
นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หมอนักต่อสู้ด้านสิ่งแวดล้อมโพสต์ชี้แนะในเฟซบุ๊กว่า …ถึงเวลาที่พรรคการเมืองไทยจะต้องลอยแพพรรคพลังประชารัฐ หยุดการต่อท่อออกซิเจนเผด็จการ คสช. หวังว่าประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยจะเป็นผู้ช่วยประชาชนถอดสายออกซิเจนจากจมูกเผด็จการ คสช.หลังจากที่ครองเมืองมายาวนาน 5 ปี
แต่ภายใน “ประชาธิปัตย์” เกิดการต่อสู้ 2 แนวทาง !
ฝ่ายหนึ่ง ต้องการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 กับอีกฝ่ายหนึ่ง ปฏิเสธ
ผลการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติ 61 เสียงเข้าร่วม 16 เสียงไม่เข้าร่วม และงดออกเสียง 2
ในทันที คำประกาศอุดมการณ์ของพรรค เมื่อ 6 เมษายน พ.ศ.2489 ข้อ 4 ที่ว่า “พรรคจะไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ” ก็ถูกแชร์ในโลกโซเชียลท่ามกลางเสียงเยาะเย้ยถากถางอย่างกว้างขวาง
“หมออั้ม” อิราวัต อารีกิจ โพสต์ในเฟซบุ๊ก “ไม่แปลกใจครับ ยอมเผด็จการตั้งแต่ในมุ้งแล้ว…”
กระนั้นก็ยังมี “คนหน้าบาง” ทยอยประกาศยุติบทบาททางการเมืองกับประชาธิปัตย์ !
“นิวเดม” ทั้งหลาย นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์
เขต 15 มีนบุรี คันนายาว กทม. ประกาศ “ขอยุติบทบาททางการเมืองกับประชาธิปัตย์ไว้เพียงเท่านี้”
“ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง “ผมเคารพการตัดสินใจของพรรคด้วยการยุติทุกบทบาททางการเมืองในนามพรรค และลาออกจากสมาชิกพรรค”
น.ส.นัฏฐิกา โล่ห์วีระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 1 ชัยภูมิ ประกาศยุติบทบาททางการเมืองกับประชาธิปัตย์
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ ลาออกจากสมาชิกพรรค
และ 5 มิถุนาฯ ในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศลาออกจาก ส.ส.พร้อมกับขอโทษประชาชน !?!!