ยังถกกันไม่จบสิ้นกับเรื่อง คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ไม่ประกาศอย่างเปิดเผยในราชกิจจานุเบกษาว่า “ชอบ” หรือ “ไม่ชอบ” ด้วยกฎหมาย
ฝ่ายหนึ่งว่า ทำอะไรให้เกรงอกเกรงใจบรรดาผู้ถือหุ้นประเทศกันบ้าง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งว่า “คนไม่เท่ากัน” ที่ยากจนกว่า การศึกษาต่ำกว่า หากุ้งหอยปูปลามาขาย ทำไร่
ทำนาทำสวน ไม่มีตำแหน่งแห่งหน “ไม่ควรจะมีเสียง”
แต่คุณเบิกเงินหลวงไป “หนึ่งพันสามร้อยล้านบาท” ไม่ใช่ “1,300 บาท” อ้างว่าเอาไปใช้สำหรับสรรหา “ส.ว.”
ชวนให้คิดว่าน่าจะได้เทวดามานั่งในสภา
ใช้เงิน 1,300 ล้านบาท ไปในขณะที่เศรษฐกิจวิบัติขัดสนแสนสาหัสชักหน้าไม่ถึงหลังค้าขายฝืดเคืองผู้คนกำลังล้มลุกคลุกคลาน
ใช้ไป 1,300 ล้าน แล้วได้อะไรมา
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ได้ญาติพี่น้องบริวารมาเป็น ส.ว.เพื่อตู่เต็มสภา”
คุณหญิงหน่อยเหน็บว่าประชาชนแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินมาจ่ายภาษี เมื่อครบวาระ 4 ปีที่ “ตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไป ส.ว.กลุ่มนี้ก็ยังอยู่เพื่อยกมือโหวตให้ “ตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปอีก 4 ปี
หากเป็นไปตามนั้นก็จะเท่ากับว่า “ตู่-ขอเวลาไม่นาน” จะเป็นนายกรัฐมนตรี 5+4+4 รวม 13 ปี
ถ้าเปรียบว่าประชาชนคือ ผู้ถือหุ้น คุณตู่กับคุณ ส.ว.ซึ่งรับเงินค่าจ้างทุกๆ เดือนเป็นใคร?
และตู่แต่งตั้ง “250 ส.ว.” มาเพื่ออะไร
“ส.ว.” ทั้ง 250 คน ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนในรัฐสภาด้วยการยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ส.ว.ทั้ง 250 คน รับเงินเดือน เงินเพิ่ม เงินอะไรต่อมิอะไรที่จะมีมาอีกทั้งหมดนั้นก็เป็นเงินประเทศที่ได้มาจากภาษีประชาชน
การปกปิดชื่อเสียงเรียงนามคณะกรรมการสรรหาตั้งแต่แรกนั้นเป็นอาการจงใจปิดบังซ่อนเร้นอำพราง จนเป็นที่ครื้นเครงที่สุดเมื่อพบว่า
“คณะกรรมการสรรหา ส.ว.กับ ส.ว.เป็นชื่อเดียวกัน”
สรรหา ส.ว.มาด้วยความยากลำบากมาก
ได้เพื่อนพ้องน้องพี่อดีตทหารอดีตตำรวจ
ได้คนเก่าหน้าแก่จากแม่น้ำห้าสายของ คสช.ซึ่งใน 5 ปีจากนี้ไปประเทศต้องจ่ายค่าจ้างให้ไม่น้อยกว่า 3,600 ล้านบาท
น่ามอบเหรียญกล้าหาญให้ “วิษณุ เครืองาม” ที่ออกมาบอกว่างานนี้ “ประชาชนไม่เกี่ยว” !?!!
