นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดประชุมเชิงวิชาการระดับภูมิภาค เรื่อง “การส่งเสริมการมีรายได้ และมีงานทำของผู้สูงอายุในกลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม” จัดโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย ณ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ โฮเต็ล ประตูน้ำ กรุงเทพฯ ว่า จากประมาณการของสหประชาชาติ ถึงประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในปี 2015 มีร้อยละ 14.7 ของประชากรโลก และในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรโลก จึงเป็นประเด็นท้าทายต่อการรับมือ ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญต่อบทบาทผู้สูงอายุ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต การพึ่งพาตนเอง รวมไปถึงการสร้างรายได้มีงานทำตามศักยภาพ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของภาครัฐ ทั้งนี้ การส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุ ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันต้องจัดสวัสดิการรองรับที่เหมาะสม และต้องอาศัยความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม สำหรับประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และกำหนดให้สังคมสูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมีการส่งเสริมการมีงานทำและการมีรายได้ของผู้สูงอายุ ที่คำนึงถึงสภาพการจ้างงาน มีการกำหนดงาน อาชีพ และระยะเวลาที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ทั้งสนับสนุนทุนประกอบ อาชีพ การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมกับสภาพการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงมาตรการจูงใจทางภาษีเพื่อให้สถานประกอบการรับผู้สูงอายุทำงาน
ปลัด พม.กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการส่งเสริมการมีรายได้ และมีงานทำของผู้สูงอายุในกลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม สร้างเครือข่ายระดับภูมิภาค ร่วมกันหาแนวทางการส่งเสริมงานที่มีคุณค่าสำหรับผู้สูงอายุ โดยมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างสังคมที่มีความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน ผลการประชุมจะนำเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา เพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อภูมิภาคอาเซียนบวกสาม ในการพัฒนาแนวทางการส่งเสริมงานที่มีคุณค่า สำหรับผู้สูงอายุ และการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีรายได้และมีงานทำต่อไป
