ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | เหยี่ยวถลาลม |
เผยแพร่ |
ไม่เคยมีใครนิยามเอาไว้หรอกว่าตำรวจอาชีพมีหน้าตามีคุณลักษณะอย่างไร แต่เมื่อพูดออกไป ตำรวจโดยทั่วไป ผู้คนโดยทั่วไปก็พอจะเข้าใจได้ว่า การเป็นตำรวจนั้นต้องเป็นที่พึ่งพาได้ วางใจได้ และให้ความยุติธรรมได้
ในโรงเรียนตำรวจก็ต้องมีการกำหนด “บรรทัดฐาน” ทางคุณธรรม หรือจรรยาบรรณ ต้องมีการสอนและปลูกฝังด้วยความหวังว่าจะได้เห็นผู้ซึ่งจบออกไปรับราชการตำรวจเป็นผู้ดำเนินชีวิตดี ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ มีหิริโอตตัปปะ ละอายและเกรงกลัวต่อความทุจริตผิดบาปทั้งหลาย
ตำรวจเป็นด้านตรงข้ามกับผู้ร้าย
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง การเริ่มต้นชีวิตราชการของตำรวจหลายคนพบว่า ไม่ใช่
ถ้าได้เจอพี่เลี้ยงดี เป็นต้นแบบที่ดีก็ดีไป แต่จำนวนมากทีเดียวกลับเจอสิ่งที่ตรงกันข้าม
ทุกพื้นที่ ทุกหน้าที่ ลูกพี่มีแต่พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ !
“ตำรวจ” ผู้รักษากฎหมายและบังคับใช้กฎหมายจึงกลายเป็นผู้ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่รักษากฎ ไม่เคารพกฎ
ที่น่าสลดคือ ไม่มีแม้กระทั่ง “กฎ” ที่จะให้ความยุติธรรมแก่ตำรวจด้วยกันเอง
ในโลกความเป็นจริงของตำรวจจึงเหมือนแดนสนธยา
ความเจริญก้าวหน้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “เกณฑ์” ของการประพฤติ “เกณฑ์” ของการปฏิบัติ “เกณฑ์” ที่วัดจากระดับความสามารถ
ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องมีประสบการณ์ เพียงแค่ให้มี “อำนาจสั่งการ” ลาภ ยศ สรรเสริญก็ไหลมาเทมา !
คำตอบจากโลกของความเป็นจริง จึงได้เฉลยว่า
“ระบบตำรวจ” ทำให้คนที่ควรจะเป็น “ตำรวจมืออาชีพ” ผู้เคร่งครัดในคุณธรรมทางกฎหมาย กลายเป็นแค่คนที่อยากรวยด้วยการมีอาชีพเป็นตำรวจ ที่สนใจแต่ “รายรับ”
ท้ายที่สุดแม้ในยามที่หาช่องทาง “รับ” จากที่อื่นๆ ซึ่งผิดกฎหมายไม่ได้ “วัฒนธรรม” อันฟอนเฟะขององค์กรยังยินยอมให้ “นาย” ทั้งรีดทั้งเค้นเอาจากงบเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการซึ่งเป็นเสมือนเลือดเนื้อของลูกน้อง
วันนี้ตำรวจขวัญตกสุดสุด
ไม่มีตัวแบบคนดีที่น่าทึ่งซึ่งจะให้เอาอย่าง ไม่มีความภาคภูมิใจในความเป็น “ตำรวจอาชีพ” !?!!