พยัคฆ์ไพร เตรียม’ปูพรม’กวาดล้างนายทุน-ผู้มีอิทธิพล รุกป่าต้นน้ำ จ.เลย

ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน กําหนดให้ดําเนินคดี กับผู้บุกรุกป่า รายที่เป็นนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช.ที่ 64และ 66/2557 และคําสั่ง คสช.ที่ 13/2559 โดยเฉพาะในท้องที่ที่เป็นเขตป่าต้นน้ำลำธารสายหลักของประเทศประกอบด้วย พื้นที่ป่าต้นน้ำปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำป่าสักอันสืบเนื่องจากกรณีกาบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตจังหวัดต่างๆ ในท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือ ที่ยังคงมีความรุนแรงส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมบนพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร ในเขตภูเขาสูงอย่างรุนแรงโดยเฉพาะที่เป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองของกลุ่มผู้มีอิทธิพลระดับต่างๆ และกลุ่มทุนจากนอกพื้นที่และในช่วงเวลาวันที่ 1-3 มิถุนายน 2559 อธิบดีกรมป่าไม้นายชลธิศ สุรัสวดี และนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการให้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม นำชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ของกรมป่าไม้ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเลย ร่วมกับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 กอ.รมน.ดำเนินการหาข่าวทางลับและจัดประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ของกรมป่าไม้และหน่วยงานอืนๆเพื่อเตรียมการบูรณาการเพื่อประกอบกําลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบและดําเนินการบังคับใช้ กฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำป่าสัก ที่ถูกบุกรุกในเขตจังหวัดเลย

13342312_10210172456016056_1324551122_n

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า ก่อนหน้าได้นำชุดปฎิบัติการลงพื้นที่หลังจากที่เคยเข้าปฎิบัติการๆในพื้นที่ดังกล่าว ต่อกลุ่มทุนหลายครั้งแล้วรวมพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีแล้วประมาณ 50,000 ไร่ โดยนายชลธิศได้สั่งการให้ การปฏิบัติการเชิงรุกต่อกลุ่มทุนที่เข้ายึดครองที่ดินในเขตป่าไม้ที่ผิดกฎหมายอย่างเฉียบขาด นอกจากนี้ พยัคฆ์ไพรขยายผลให้ถึงผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก สร้างความกดดันกลุ่มทุน ตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฟื้นผืนป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างมากเวลานี้ โดยในวันที่ 4-5 มิถุนายน นายชลธิศจะเดินทางเข้าอำนวยการปฎิบัติการด้วยตนเองในพื้นที่ จังหวัดเลย เพื่อเปิดยุทธการเข้าตรวจยึดดำเนินคดี พื้นที่จำนวนหลายจุดเป้าหมาย ที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ในท้องที่ 3 อำเภอได้แก่ ในท้องที่ ด่านซ้าย นาแห้ว นาด้วง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกของกลุ่มทุนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ได้รับการตรวจสอบข้อมูลแล้วเชิงลึกแล้วและได้ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลกลุ่มบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ไว้แล้ว และทางชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ขยายผลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตามรายชื่อบัญชีดังกล่าว

13348880_10210172455896053_2067249196_n

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image