สืบเนื่องนายตระการ คุณาวุฒิ ประธานเครือข่ายกลุ่มแสงตะวัน (เอ็นจีโอ) พิจิตร เปิดเผยว่า พฤติกรรมของนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ได้ท้าทายนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น น่าละอาย และเสียชื่อคนพิจิตร นอกจากนี้นายกิตติศักดิ์ยังมีคดีติดตัว เนื่องจากเคยเป็นแกนนำปลุกชาวบ้านบุกวันบางคลาน โดยรักษารักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานแจ้งดำเนินคดี ทว่า นายกิตติศักดิ์ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่ยอมมอบตัวสู้คดีนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม มีการเปิดเผยสำเนาบันทึกข้อความ เรื่อง ขออนุญาตเรียกตัววุฒิสภาไปทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ความว่า ตามหนังสือที่ 0004.6/9267 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2544 เรื่องการขออนุญาตเรียกตัว สส. หรือ สว.ไปทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา และหนังสือที่ นร.0204/12631 ลงวันที่ 17 กันยายน 2544 เรื่อง การขออนุญาตหมายเรียกตัวสมาชิกวุฒิสภาไปทำการสอบสวนคดีอาญา เป็นผู้พิจารณาลงนามในหนังสือขออนุญาตหมายเรียกตัวมาทำการสอบสวนคดีอาญานั้น
สภ.โพทะเล ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) มอบอำนาจให้นายเสน่ห์ ลือมงคล ไวยาวัจกร เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิก สนช.) กับพวกรวม 11 คน ในข้อหา ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยกล่าวว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ได้นำมวลชนเอาแม่กุญแจไปปิดล็อกประตูกุฏิสามฤดู ซึ่งเป็นที่พักของรักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม จากนั้นก็นำแม่กุญแจไปปิดล็อกประตูเหล็กทางขึ้นกุฏิสามฤดู และนำมวลชนชุมนุมประท้วงปิดประตูทางเข้าออกวัดหิรัญญาราม อันเป็นการรบกวนการครอบครองโดยปกติสุขของรักษาการเจ้าอาวาสฯ ทางคดีมีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง พนักงานสอบสวนจึงรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 164/2561
เหตุเกิดที่วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน หรือวัดวังตะโก) หมู่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จว.พิจิตร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 12.00 น.เศษ
หากแต่คดีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 125 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้ว่า ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวไปทำการสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก จึงเห็นควรทำหนังสือขออนุญาตประธานวุฒิสภา เพื่อเรียกตัวนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ มาทำการสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาในคดีอาญาต่อไป พร้อมหนังสือนี้ได้แนบสำเนาเอกสารประกอบคดี รวมจำนวน 67 แผ่น และแผ่นวีซีดีบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุจำนวน 1 แผ่น
นอกจากนี้ยังมี หนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญา ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ใจความโดยสรุปคือ คดีนี้พนักงานสอบสวนได้มีหนังสือถึงนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ถึงผู้บังคับบัญชาขออนุญาตขอตัวมาดำเนินคดีตามความละเอียดที่เคยแจ้งไว้แล้วนั้น ปัจจุบันนี้ นายกิตติศักดิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา สถานีตำรวจภูธรโพทะเลจึงมีหนังสือถึงประธานวุฒิสภา (ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น) เพื่อขออนุญาตเรียกตัวมาทำการสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาไว้แล้ว รายละเอียดปรากฏตามหนังสือ ที่ 0021(พจ).8/1433 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2562 โดยสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอยู่ระหว่างการขออนุญาตประธานวุฒิสภาพิจารณาเรียกตัวนายกิตติศักดิ์มาทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
