พลันสิ้นเสียงกัมปนาทจากระเบิดคราวนี้ “กล้องซีซีทีวี” ทุกตัว ทุกที่ในเขตกรุงเทพมหานครก็พร้อมใจกันปฏิบัติงานอย่างคึกคัก
ไม่มีรายงานว่า “กล้องซีซีทีวี” ตัวใดชำรุด ใช้การไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายความมั่นคงต่างก็สามารถใช้ประโยชน์จาก “กล้องซีซีทีวี” แต่ละตัวแต่ละจุดได้อย่างมีประสิทธิผล
นับตั้งแต่บ่ายคล้อยของวันที่ 1 สิงหาคม ที่พบระเบิด 2 ลูกหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 ซึ่งสามารถเก็บกู้ได้ แต่ถัดมาวันที่ 2 สิงหาคม เวลา 06.09 ระเบิดก็กัมปนาทขึ้นที่หน้าอาคาร B ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้น 08.43 ระเบิดก็ตูมขึ้นอีก 1 ลูก ที่ทางออกอาคาร B นั่นเอง อีกอึดใจ ในเวลา 09.09 ระเบิดอีกลูกก็แผดเสียงสะท้านหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ในบริเวณศูนย์ราชการเช่นเดียวกัน
จนถึง 11.00 น.ก็ตรวจพบและเก็บกู้ได้อีก 1 ลูก ที่บริเวณใกล้กองบัญชาการกองทัพไทย
ขณะที่อีกฟากหนึ่ง ที่ย่านยานนาวา ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ที่หน้าอาคารคิงส์พาวเวอร์มหานครกับที่ลานจอดรถ เกิดระเบิด 2 ตูมติดต่อกัน มีผู้บาดเจ็บ 2 คน
08.40 อีกบึ้มที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน เขตติดต่อถนนสรงประภา ดอนเมือง
ไม่ว่ามือระเบิดจะเป็นใคร มีจุดประสงค์อันใด กล่าวได้ว่า “ท้าทาย” และ “ลูบคม” ได้สำเร็จ !
“ท้าทาย” ต่อระบบการป้องกันและบุคลากรผู้มีหน้าที่ ชี้ให้เห็นว่า “หลวม” และมี “ฝีปาก” มากกว่า “ความสามารถ”
“ลูบคม” ด้วยปฏิบัติการแทนคำบอกกล่าวว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งประสงค์จะเล่นงาน พวกขี้โม้ขี้คุยทั้งหลายก็ยากที่จะรับมือป้องกัน
แต่ในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ “กล้องซีซีทีวี” พร้อมใจกันดีเลิศ บันทึกภาพเคลื่อนไหวของคนร้ายครบทุกบททุกตอนตั้งแต่เตรียมการถึงปฏิบัติการและหลบหนี มีครบทุกจุด ส่วน “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ก็เก่งกาจสามารถ ทั้งที่คดีแบบนี้มักจะมืดแปดด้าน แต่งานนี้ตำรวจปฏิบัติงานได้รวดเร็วฉับไวตามจับกุม 2 คนร้ายได้ระหว่างเดินทางหลบหนี
ที่นับเป็น “ความมหัศจรรย์” ก็คือ ภายหลังเกิดระเบิดในกทม.และปริมณฑลครั้งนี้ “กล้องซีซีทีวี” ทุกพื้นที่ ทุกตัวให้ความร่วมมือดีมาก
ตำรวจก็ไม่เกียจคร้านอู้งาน กล้องไม่ชำรุดเหมือนตอนที่อันธพาลรุมทำร้ายทุบตี “จ่านิว” ผู้ปากกล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
ช่างมหัศจรรย์จริงๆ เป็นไปได้อย่างไรกัน !?!!!
