| ที่มา | คอลัมน์ โลกนี้มีรากหญ้า มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ภาคภูมิ ป้องภัย |
| เผยแพร่ |
กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว วิสาหกิจชุมชน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และ อ.ท่าหลวง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ อาทิ สวนเกษตร สวนผลไม้ สวนไม้ดอก แหล่งสินค้าพื้นถิ่นในเขตชุมชนต่างๆ สถานที่พักตากอากาศ ฯลฯ ไล่จาก จ.สระบุรี เชื่อมโยงไป จ.ลพบุรี
จนพวกเขาสามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใน 2 จังหวัด ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้แบบธรรมชาติและประวัติศาสตร์ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เรียกว่า “เส้นทางท่องเที่ยววิถีเกษตรเชิงประณีต” และสามารถนำเสนอเส้นทางนี้ผ่านบริษัทนำเที่ยว บริษัทห้างร้าน หน่วยงานราชการ และนักท่องเที่ยวทั่วไป ให้มาเที่ยวในรูปแบบ One Destination Two Provinces ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน (ดูเพิ่มเติมได้จาก http://www.tiewpakklang.com/news/lopburi/22057/)
เส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะผ่านพบ อาทิ “สวนบิ๊กเต้” แหล่งผลิตดอกเบญจมาศหลายสายพันธุ์ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, “ไร่ภูนวพันธุ์” แหล่งผลิตผักปลอดสารพิษที่มีเทคนิคการปลูกที่ให้ผลผลิตสูง และได้คุณภาพ, “สวนผักครูสรรเสริญ” แหล่งผลิตผักปลอดสารพิษ และปลูกด้วยดินธรรมชาติ, “ฟาร์มสายทอง” แหล่งผลิตมัลเบอร์รี่สด พร้อมแปรรูปโดยไม่ใช้วัตถุกันเสีย, “ไร่ซับมะกรูดวัลเล่ย์” ตั้งอยู่ในหุบเขา เป็นที่ซึ่งอากาศไหลเวียนตลอดทั้งปี ดินและน้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้การปลูกหมามุ่ยอินเดียมีคุณภาพดีมาก, ต.หนองย่างเสือ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงโคนมพันธุ์นิวซีแลนด์ มีวิถีแบบโคบาล ฯลฯ อีกหลายแห่งตามรายทาง
พลาดไม่ได้เลยคือ “เมืองโบราณซับจำปา” และ “ป่าจำปีสิรินธร” ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี ไม่เพียงเป็นร่องรอยบรรพบุรุษไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นผืนป่าธรรมชาติดั้งเดิม มีต้นจำปาอายุกว่า 200 ปีขึ้นอยู่มากในบริเวณนั้น สามารถเดินสัมผัสวิถีชุมชนที่ร่วมกันอนุรักษ์ป่าโบราณเอาไว้ ใกล้กันมี “พิพิธภัณฑ์ซับจำปา” จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชุมชน และการอนุรักษ์ผืนป่าให้อยู่คู่ชุมชนตลอดไป ส่วนใครยังไม่มีโอกาสไปเยือน แต่อยากมีส่วนร่วมอนุรักษ์ผืนป่าจำปีสิรินธรได้ผ่านบัญชี “กองทุนพัฒนาพิพิธภัณฑ์ซับจำปาและป่าจำปีสิรินธร” ธนาคารกรุงไทย สาขาลำนารายณ์ เลขที่ 113-0-56719-2
ห่างออกไปอีกเล็กน้อยในพื้นที่ ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ยังมีแหล่งโบราณคดี “บ้านโป่งมะนาว” ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากมีการขุดค้นพบ
โครงกระดูก และเครื่องใช้ต่างๆ เป็นจำนวนมาก และค่อนข้างสมบูรณ์ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ราว 3,500- 2,500 ปี ทางชุมชนได้อบรมนักเรียนให้เป็นยุวอาสาสมัครนำเที่ยวและให้ข้อมูล
มีแหล่งท่องเที่ยวเมืองโบราณหลายแห่งที่ชุมชนจัดอาสาสมัครตัวน้อยไว้คอยนำเที่ยว ผมอยากให้ช่วยกันใช้บริการครับ อย่ารู้สึกรำคาญหรือเห็นว่าเด็กไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรลึกซึ้งอย่างที่ใจเราต้องการ คิดในแง่ดีคือเราได้มีส่วนช่วยให้เด็กตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง กล้าแสดงออก ให้เขาเรียนรู้การมีปฏิสัมพันธ์กับคนทุกเพศทุกวัยทุกระดับ อีกทั้งยังช่วยให้มีรายได้เสริมครอบครัวอีกทางหนึ่ง
เส้นทางสายใหม่ ทริปสั้นๆ มีความสุข จับจ่ายใช้สอย ช่วยกระจายรายได้ให้ชุมชนเข้มแข็ง มีแรงรักษารากเหง้า และทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ วิน วินด้วยกันทั้งหมด
